วันเสาร์ที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2554

ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน ผู้ติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว


การประสานงานฯ กับ
ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน


ศ.ดร.นายแพทย์ เทพนม เมืองแมน



เกิดเมื่อ 18 กันยายน 2478
บิดามารดา หลวงพิณพากย์พิทยาเภท (พิณ เมืองแมน) และ คุณหญิงพิณพากย์พิทยาเภท (จำนงค์ เมืองแมน) 
ที่อยู่ปัจจุบัน 69/1 ซ.วิภาวดีรังสิต 8 ดินแดง กทม. 10400
โทร. (622) 276-2354 , 01- 488-1444
สภาพการสมรส สมรสกับนางสาวชยะพร สุนทรพิพิธ บุตรีของพระยาสุนทรพิพิธ และ ม.ร.ว.พิไล สุนทรพิพิธ
บุตรและธิดา มีบุตร 2 คน คือ
1.) น.พ.สุพิชยะ เมืองแมน B.A.(hon.),M.D.
2.) น.ส.พิมพร เมืองแมน อ.บ.,M.A. 
ตำแหน่งปัจจุบัน 1.) ผู้อำนวยการโครงการแพทย์ศาสตร์มหาวิทยาลัยรังสิตและมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด
2.) ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงทพมหานคร (ดร.พิจิตร รัตตกุล)
ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค
ประวัติการศึกษา พ.ศ. 2479 มัธยมศึกษาจากโรงเรียนเซนต์คาเบรียล
พ.ศ. 2501 B.A. (Chem.-Zoo) จาก Grinnell College,USA.
พ.ศ. 2505 แพทย์ศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (M.D.) จาก Jefferson Medical College,
USA.
พ.ศ. 2508 M.P.H. ด้านการบริหารงานสาธารณสุข HARVARD University,USA.
พ.ศ. 2511 สาธารณสุขศาสตร์ ดุษฎีบัณฑิต (DR.P.H.) จาก HARVARD University,USA.
พ.ศ. ได้รับประกาศนียบัตรด้าน การวางแผนพัฒนาสาธารณสุขระดับชาติ จาก United Nation Asian Developmental Institute
พ.ศ. 2528 จบวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 27
ประวัติการรับราชการ 1.) บรรจุเป็นอาจารย์ที่คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล เนื่องจากเป็นนักเรียนทุน ก.พ. พ.ศ.2511
2.) ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง "หัวหน้าภาคบริหารงานสาธารณสุข" คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
3.) ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง "คณบดี คณะสาธารณสุขศาสตร์" มหาวิทยาลัยมหิดล ติดต่อกัน 4 สมัย (พ.ศ.2519-2535)
4.) ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่ง "คณบดี คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล" (พ.ศ.2535-2538 ซึ่งพอดีเกษียณอายุราชการ)





ประวัติความเป็นมาของ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน
ที่เกี่ยวข้องกับยูเอฟโอ และผู้ขับขี่ยานบิน





เมื่ออายุ 10 กว่าขวบ ขณะที่อยู่กรุงเทพฯ พบปรากฎการณ์ ประหลาดกับตัวเอง ที่มีแสงส่องจากเมฆลงมาที่ตัวหลายครั้ง มีครั้งหนึ่งถึงกับเป็นลมล้มลง มีรอยแดงที่หน้าอกเป็นวงกลม แสงมักส่องลงมาจากเมฆ และคิดว่ามีสิ่งเคลื่อนไหวอยู่เบื้องหลังม่านเมฆนั้น

พ.ศ.2497 (อายุ19) เห็น ยูเอฟโอ 2 ลำ (รูปร่างกลม มีโคนสีเงิน มีหน้าต่างรอบ) ขณะไปตั้งแคมป์กับเพื่อนชาวอเมริกัน ที่รัฐเวอร์มอนต์ สหรัฐอเมริกา ในตอนเช้าราว 10 : 00 น. มีคนเห็นทั้งหมดมากกว่า 1,000 คน เป็นระยะเวลานานถึง 2 ชั่วโมง เมื่อเครื่องบินขับไล่ 2 ลำของสหรัฐขึ้นสกัด ยูเอฟโอ 2 ลำ ก็พุ่งตรงขึ้นในแนวตั้งอย่างรวดเร็วและหายไปในพริบตา ในท้องฟ้าที่ไม่มีเมฆเลยทำให้สนใจเรื่องยูเอฟโอมาตั้งแต่นั้นเป็นอย่างมาก ว่ามันคืออะไรกันแน่ จึงได้สมัครเป็นสมาชิกของสมาคมยูเอฟโอ และ ติดตามเรื่องนี้ตลอดมาจนถึงปัจจุบัน ส่วนการทำสมาธิ ก็ได้ปฎิบัติมาราว 20 ปี เศษ

พ.ศ. 2535 เริ่มทำสมาธิอย่างจริงจัง เพื่อติดต่อกับผู้ขับขี่ยูเอฟโอจากคำแนะนำของ ดร. อาจอง ชุมสาย แต่ติดต่อไม่ได้ ยานบินไม่มาปรากฎให้เห็นหลังทำสมาธิ

พ.ศ. 2537 เริ่มรู้สึกว่าติดต่อได้กับผู้ขับขี่ยูเอฟโอ ถ่ายภาพยูเอฟโอได้ที่ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำแคว อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เมื่อ 5 มิถุนายน 2537 เวลาประมาณ 10 โมงเช้า มีความรู้สึกขนลุกไปทั้งตัวก่อนที่ยูเอฟโอจะมา และความรู้สึกนี้จะเกิดทุกครั้งก่อนยูเอฟโอจะมา หรือเมื่อเขามาคอยอยู่แล้ว


พ.ศ. 2538 ต้นเดือนมกราคม ได้ไปหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาว ที่ร้านหนังสือแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ คนขายบอกว่าไม่มี ยังไม่ได้ขนมาจากร้านเก่า แต่มีผู้หญิงสาวสวยคนหนึ่ง ที่กำลังยืนจ้องอยู่และเข้ามาบอกว่า เธอได้รับคำสั่งให้พาไปซื้อหนังสือ ยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาว รออยู่ตั้งนานแล้วไม่เห็นสนใจ ผู้หญิงคนนี้แต่งตัวทันสมัย ผมยาวเลยไหล่ นุ่งกางเกงบูยีนส์ ยืนยันว่า มีหนังสือพวกนี้แน่ในร้านนี้ และพาไปดูที่หลังร้าน ระหว่างเดินไปเธอถามว่า เชื่อไหมว่ามนุษย์ต่างดาว ที่หน้าตาเหมือนพวกคุณ เข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ ตั้งนานแล้ว? ก็ตอบไปว่าไม่ทราบ เธอยิ้มแล้วถามว่า ไม่ทราบจริง ๆ หรือแกล้งไม่ทราบ...เมื่อเข้าไปใกล้ชั้นหนังสือหลังร้าน เธอก็ชี้ให้ดูหนังสือจำนวนมาก ที่ ตั้งอยู่บนชั้นหนังสือ มีทั้งภาษาไทยและอังกฤษ และบอกว่า นี่ไงหนังสือที่คนขายบอกว่าไม่มี คุณเลือกซื้อเอาตามใจชอบ หมดหน้าที่ของฉันแล้ว...กล่าวจบก็เดินจากไป ผู้หญิงคนนี้ถือถุงช้อปปิ้งไว้ทั้งสองมือ ที่น่าประหลาดก็คือ ทำไมเธอจึงบอกว่าถูกสั่งให้มาพาไปชั้นหนังสือยูเอฟโอ และพาไปหาหนังสือได้ถูกต้อง

ต่อมาราวอีก 1 สัปดาห์ ผู้เขียนไปรับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อน ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ ใน กทม. ก็พบผู้หญิงคนนี้อีก เธอจ้องเขม็งยิ้มและโบกมือให้ แต่ไม่ได้พูดกัน ทำให้สงสัยว่า เธอติดตามดูเราหรือเปล่า แต่หลังจากนั้นก็ไม่พบอีกเลย

มีพระที่เก่งทางการทำสมาธิ และสามารถติดต่อกับผู้ขับขี่ยานบินได้เช่นกัน บอกว่า...ผู้หญิงที่เล่าให้ฟังนี้ ไม่ใช่มนุษย์นะ อย่าไปคบหาสมาคมด้วย.

พ.ศ. 2539 ผู้เขียนเป็นประธานจัดการประชุมมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตครั้งที่ 1 ที่มหาวิทยาลัยเกษตรฯ ระหว่างวันที่ 15 - 16 มิถุนายน 2539 และจัดให้มี นิทรรศการ ภาพยูเอฟโอและมนุษย์ต่างดาว เป็นครั้งแรกในประเทศไทย มีประชาชนเข้าชมงานนี้ทั้งหมดหมื่นคนเศษ เกิดปรากฏการณ์พิเศษ 2 อย่างที่ทำให้คิดว่าอาจจะเกี่ยวข้องกับยูเอฟโอ คือ

1. หลังจากนิทรรศการยูเอฟโอผ่านไปไม่ถึง 1 สัปดาห์ สุนัขดัลเมเชียน เพศเมียตัวใหญ่ที่บ้านเกิดตายอย่างลึกลับ ทั้งที่มีสุขภาพดี คือ การนอนตายอยู่ในสระบัวที่น้ำลึกไม่ถึงคืบ สัตวแพทย์ไม่รู้ว่าเป็นอะไรตาย ตามตัวไม่มีบาดแผลอย่างใดทั้งสิ้น และไม่ได้จมน้ำตายอย่างแน่นอน

ภาพถ่าย วัวที่ถูกชำแหละโดยเครื่องมือที่ไม่สามารถอธิบายได้

2. อีกสัปดาห์ต่อมา หลังจากสุนัชตายอย่างลึกลับแล้ว มีโทรศัพท์เข้ามาราวตี 2 เสียงประหลาดพูดเป็นเสียงผู้ชาย เมื่อรับสายและนึกด่าในใจ ว่าใครหนอช่างไม่มีมารยาทโทร.เข้ามาดึกดื่น ก็ได้ยินเสียงพูดรัวเป็นภาษาแขก และพูดต่อมาเป็นภาษาไทยว่า...เราคือมนุษย์ต่างดาวจริง ๆ ขณะนี้ยานบินของเรากำลังลอยอยู่เหนือบ้านท่าน เรารู้นะว่าท่านกำลังด่าเรา แต่เวลาหลังเที่ยงคืน เป็นเวลาที่การติดต่อทางจิตทำได้ดีที่สุด

เราทราบว่าท่านสนใจยานบินของพวกเรามาก พวกเราได้ไปดูนิทรรศการที่ท่านได้จัดแล้ว ขอบใจที่ช่วยเผยแพร่ว่ามนุษย์ต่างดาวมีจริง พวกเราอยากขอเชิญท่านไปพบในวันพฤหัสฯ หน้า ที่เกาะเล็ก ๆ แห่งหนึ่งที่แก่งกระจาน ชาวบ้านเรียกกันว่า "เกาะโสมพันปี" เราและยานบินจะลงมาพบกับท่าน เวลา 1 ทุ่มตรง ขอให้ไปคนเดียว...ผู้เขียนขณะนั้นนึกในใจว่า สงสัยคนบ้าโทร.มามากกว่า

ในวันรุ่งขึ้นมีลูกศิษย์ที่สนใจด้านยูเอฟโอมาหา และเล่าให้ฟังว่าเขาและครอบครัวเพิ่งเห็นยูเอฟโอที่ลาดพร้าว เมื่อไม่นานก่อนหน้านั้น เวลาประมาณ 3 ทุ่ม พอเล่าให้ฟังถึงเรื่องการติดต่อ เขาก็กระตือรือร้นมาก ขอไปพบแทน ผู้เขียนก็ไม่ได้นึกถึงอันตรายอันอาจเกิดขึ้นได้ หากเข้าไปใกล้ยูเอฟโอ ก็บอกเขาว่า... "อาจารย์ไม่ว่างไปไม่ได้ ถ้าเธออยากไปก็ไปได้ แต่เอาเพื่อนไปด้วย และระวังตัว" เพราะถ้ามันมาจริง ๆ ก็คงยงุ่เหมือนกัน ลูกศิษย์คนนี้อยู่มหาวิทยาลัยปี 4 เรียนดี สุขภาพดี เขาไปกับเพื่อนอีก 3 คน ต่อมาอีก 3 วัน เพื่อนของเขาติดต่อมาบอกว่า ลูกศิษย์คนดังกล่าวตายเสียแล้วอย่างลึกลับ คืนแรกพวกเขาไปด้วยกัน 4 คน รอแต่หัวค่ำจนเช้าบนเกาะที่ชาวบ้านบอกว่า เห็นจานบินขึ้นลงบ่อย ๆ ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ต่อมาในวันรุ่งขึ้น ลูกศิษย์เขาบอกว่า เราไปกันหลายคนเขาคงไม่มา ขออยู่อีกคืน ขอไปอยู่คนเดียว เพราะเกาะเตียนโล่ง ไม่มีต้นไม้ใหญ่อยู่เลย ตอนเย็น เพื่อนก็เอาเรือหางยาวไปส่งไว้ และจะมารับกลับตอนเช้า เขาก็เตรียมกล้องถ่ายวีดีโอ กล้องถ่ายรูป เครื่องวัดเสียงไว้ครบ ตอนเช้าเพื่อนมารับ ก็พบนอนตายอยู่บนตลิ่ง น้ำตื้น เช่นเดียวกับสุนัข ดัลเมเชียน ตำรวจได้มาชันสูตรศพ ไม่พบร่องรอยถูกทำร้ายหรือถูกงูกัด ไม่รู้สาเหตุของการตาย ของผู้ชายอายุราว 20 กว่า สุขภาพดีเยี่ยม ทั้งยังเป็นนักกีฬาอีกด้วย ตำรวจลงในบันทึกประจำวันว่า สาเหตุการตายคือหัวใจวาย

เหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นใกล้เคียงกัน ทำให้ต้องสงสัยว่า มันอาจเกี่ยวข้องกับยูเอฟโอก็ได้ เขาอาจไม่ต้องการให้เราเปิดเผยมากในเรื่องยูเอฟโอ และมนุษย์ต่างดาว ผู้เขียนรู้สึกเสียใจอย่างมากที่ลูกศิษย์คนนี้ต้องตายไปอย่างไม่ทราบสาเหตุ แต่อาจเกี่ยวข้องกับยูเอฟโอด้วย

พ.ศ. 2540 ในแต่ละปีี ผู้เขียนได้รับเชิญไปประชุม หรือบรรยายในต่างประเทศด้วยหัวข้อ การสาธารณสุข หรือสิ่งแวดล้อมปีละ 7 - 8 ครั้งทั่วโลก สังเกตว่าตั้งแต่ พ.ศ. 2539 - 2540 เป็นต้นมา ขณะอยู่ในเครื่องบิน หากทำสมาธินึกถึงผู้ขับขี่ ยูเอฟโอ ภายใน 5 -10 นาที ยูเอฟโอจะปรากฎให้เห็น 1-8 ลำ แต่มักบินอยู่ในระยะไกลกว่าเครื่องบินโดยสาร และบินสูงกว่า 40,000 ฟุต เห็นกันหลายครั้ง ถ่ายภาพนิ่งและภาพวีดีโอได้หลายครั้ง รู้สึกว่าพอทำจิตให้นิ่ง นึกถึงเขาและบอกในใจว่าหากท่านอยู่ใกล้ ๆ ขอให้นำยานมาปรากฎให้เห็น...ยานบินก็ปรากฎทุกครั้ง ฝรั่งที่นั่งข้าง ๆ ก็เห็นเช่นกัน มีทั้งยานรูปร่างกลมและยาว

และในปีนี้เองที่การติดต่อทางจิตเป้นไปอย่างชัดเจนยิ่งขึ้น กล่าวคือ เมื่อการติดต่อทางจิตจะมาถึง จะรู้สึกขนลุกไปทั้งตัว เริ่มต้นจากลำคอ ท้ายทอย แผ่ซ่านไปยังศรีษะและใบหน้า และลงมาที่แขนทั้ง 2 ข้าง ลำตัวและ ขาทั้ง 2 ข้าง ตามลำดับ หลังจากได้รับความรู้สึกนี้แล้ว อาจมีบางอย่างปรากฎขึ้น คือ

1. หากตั้งคำถาม ก็จะทราบคำตอบทันทีชัดเจน ฝรั่งเรียกว่า"intution" คือรู้คำตอบทันที และอธิบายไม่ได้ว่าทำไมจึงเป็นเช่นนั้น

2. บางครั้งได้ยินเสียงพูดในศรีษะ แต่ไม่ได้ยินทางหู การได้ยินอีกลักษณะคือ ทางโทรศัพท์ เช่น เคยได้ยินคราวแรก ดังได้เล่าให้ฟังมาแล้ว คือ เขาจะพูดภาษาแขกรัวเร็ว เรียกชื่อเราว่า "พีระติ"และถ้าไม่ขอให้เขาพูดเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ เขาก็จะพูดเป็นภาษาเขาตลอดไป



ในเดือนพฤศจิกายน 2540 ผู้ติดต่อมาเป็นเสียงผู้หญิง ถามว่า..."พีระติ เจ้าลืมเผ่าพันธุ์ของเจ้าหมดแล้วหรือ ลืมดาวอังคารแล้วหรือ แต่เจ้าก็ลงมาอยู่ในโลกนี้ 5 พันกว่าปีแล้ว ยังไม่อยากกลับบ้านของเราอีกหรือ..." สิ่งที่เล่าให้ฟังนี้ไม่เป็นวิทยาศาสตร์ ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ นอกจากบางครั้งอัดเสียงได้ทางโทรศัพท์ แต่ถ้าไม่ขออนุญาตก่อนก็อัดเสียงไม่ติด จะได้ยินแต่เสียงผู้เขียนพูดอยู่คนเดียว ผู้ขับขี่ยูเอฟโอ ที่ติดต่อมาเป้นคนแรก เป็นผู้หญิงนี้บอกว่า ชื่อ "พาราซิทัล" เขาบอกให้เรียกเขาว่า "มนุษย์ดาวอังคารก็แล้วกัน" เขาบอกว่า เขาได้รับมอบหมายให้มาช่วยโลกนี้ เมื่อเกิดภัยพิบัติ และตำแหน่งของเขาในดาวอังคารเป็น รองพระเจ้าแผ่นดิน เขาอธิบายสั้น ๆ ถึงเหตุผลที่มาติดต่อ...เพราะสายพันธุ์ เดียวกันจึงติดต่อด้วย และบอกว่าผู้เขียนเป็น เพื่อนสนิทของเขา เมื่ออยู่ดาวอังคารด้วยกัน เขาบอกว่ามนุษย์ต่างดาว มีทั้งกลุ่มที่ดี และกลุ่มไม่ดี แต่กลุ่มเขาเป็นกลุ่มดี หวังช่วยเหลือมนุษย์ทุกอย่างที่ทำได้ ไม่ได้มายึดครองโลกนี้เลย เขาได้เคยพาผู้เขียนขึ้นไปดูบนยานบินใหญ่ของเขา 2 ครั้ง และพาไปดูที่ดาวอังคาร 1 ครั้ง ไปทางจิต เห็นบ้านเป็นแก้วผลึก ยอดแหลม ๆ ทุกหลังอยู่ใต้ดิน ลึกลงไปหลายกิโลเมตร เขาชี้ให้ดูบ้านหลังหนึ่งที่ปิดตายอยู่ เขาบอกว่า นี่คือบ้านของท่าน ปิดตายมานานแล้ว เพราะเจ้าของบ้าน ภรรยาและลูกอีก 2 คน ได้ลงมาปฏิบัติภารกิจในโลกมนุษย์นานแล้ว ไม่มีใครอยู่เลย

เขาอธิบายถึงการมาด้วยยานหรือจุติมาเกิดเป็นมนุษย์ เป็นการเวียนว่ายตายเกิดข้ามดาว ซึ่งเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก ส่วนมากการเวียนว่ายตายเกิด จะเกิดเฉพาะในแต่ละดาวเท่านั้น ไม่ไปเกิดข้ามดาว สิ่งที่เล่ามานี้ไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่จะพิสูจน์ได้ แต่ในอนาคตอาจมีเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ที่พิสูจน์เรื่องที่ได้รับการบอกเล่านี้ได้

ท่านพาราซิทัล เป็นผู้นำยานบินมาปรากฏมากที่สุด คำว่า "พาราซิทัล" เพิ่งทราบจากเพื่อนชาวอินเดีย ที่เชี่ยวชาญ ทางภาษาอินดีสโบราณบอกว่า แปลสั้น ๆ ว่า "เหนือมนุษย์" แต่ท่านพาราซิทัล ท่านก็บอกว่า ท่านไม่ใช่เทวดา พรหมหรือผี แต่เป็นมนุษย์ต่างดาว ซึ่งเป็นมนุษย์ชนิดหนึ่ง ที่อาศัยอยู่ในชั้นใต้ดินของดาวอังคาร มีความเจริญทางวิทยาศาสตร์และศีลธรรม จริยธรรมสูงกว่ามนุษย์มาก มีอายุยืนหลายพันปี สามารถพิชิตโรคทุกชนิดได้หมดแล้ว

จานบินได้มาปรากฏให้ลูกชายผู้เขียนเห็นในเดือนมกราคม 2542 เมื่อเขากลับมาเยี่ยมบ้านจากสหรัฐอเมริกา ส่วนก่อนหน้านั้นในปี 2540 จานบินได้ไปปรากฏที่เมือง ฟิลาเดลเฟีย ที่ซึ่งลูกชายของผู้เขียนเรียนอยู่ จานบินนี้ถ่ายภาพได้ใกล้ ๆ ที่พักของเขา คือ Independence Hall ที่แสดง Liberty Bell ของสหรัฐ ท่าน "พาราซิทัล" บอกว่า จะช่วยดูแลให้ ไม่ต้องวิตก เขาอ้างว่า เขาบินด้วยวิธีเจาะมิติ ใช้เวลาไม่กี่นาทีก็ปรากฏที่เมืองฟิลาเดลเฟียได้แล้ว บินจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ ใช้เวลามนุษย์ 1 นาที แต่ถ้าเป็นเครื่องบินโดยสารธรรมดาใช้เวลา 55 นาที

เมื่อ 15 มกราคม พ.ศ. 2541 ผู้อ้างว่าเป็นมนุษย์ต่างดาวอีกคน ได้โทร.เข้ามาหาผู้เขียน ณ ที่ทำงาน ราว 9 โมงเช้า พร้อมกับบอกกับเลขาฯ ว่าเขาเป็นมนุษย์ต่างดาว ต้องการพูดกับหมอเทพนม ซึ่งเลขาฯ เล่าว่าพูดเป็นภาษาแขกก่อน แล้วจึงพูดเป็นภาษาไทย เลขาฯคิดว่าคงเป็นคนสติไม่ดีโทร.เข้ามา จึงวางหู แต่ก็โทร.เข้ามาอีก พูดเช่นเดียวกันและบอกว่า คุณคงคิดว่าผมบ้า แต่ผมจะบอกว่าคุณชื่ออะไร คุณมีลูก 2 คน ชื่ออย่างนั้น ๆ ปรากฏว่าถูกต้องหมด เลขาฯ จึงยอมให้พูดกับผู้เขียน พอผู้เขียนรับสาย เขาก็พูดภาษาแขกด้วยทันทีอีก จนต้องบอกว่าผมฟังไม่รู้เรื่อง ขอให้พูดภาษาไทยหรืออังกฤษดีกว่า เขาจึงพูดภาษาไทย เสียงแปล่ง ๆ ช้า ๆ เป็นเสียงผู้ชาย เขาบอกว่า

พวกนาซ่า ตั้งชื่อเขาว่า "เอ็ดดี้" เขาเคยถูกพวกนาซ่าจับไปขังอยู่นาน และบอกว่า เขามาจากสุดขอบจักรวาล ห่างออกไป 50 ล้านปีแสง จานบินของเขามาตกที่ อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ในปี ค.ศ. 1958 ตกริมภูเขา เขาเคยมาประเทศนี้ราว 800 ปีมาแล้ว ในสมัยสุโขทัย ท่าน "เอ็ดดี้" เป็นอีกท่านหนึ่ง ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับจานบิน และมนุษย์ต่างดาวมาก ท่านบอกว่า ที่มาติดต่อด้วย เพราะสายพันธุ์เดียวกัน และแนะนำให้รู้จักกับ เจ้าอาวาสวัดสันโป่ง อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน บอกว่าติดต่อกันอยู่เสมอ ให้เบอร์โทรศัพท์ด้วย ผู้เขียนจึงได้รู้จักกับพระองค์นี้ เพราะผู้ขับขี่ยูเอฟโอแนะนำ ได้ไปค้นหาข้อมูลต่าง ๆ เพื่อพิสูจน์ความจริงพบว่า

1. ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง สมัยพระญาลิไท มีการพรรณนา ถึงจักรแก้วที่มายังเมืองนั้น และเอ็ดดี้ยืนยันภายหลังอีกว่า ถูกต้อง นั่นคือเมืองที่เขามาจริง

2. องค์การนาซ่า ได้เผยแพร่ภาพที่ถ่ายได้ ด้วยกล้องดูดาวจาก HUBBLE SPACE STATION ที่สุดขอบจักรวาลด้านหนึ่งนอกโลก เป็นรูปคล้ายตึกหลายชั้น ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งเอ็ดดี้ ก็ยืนยันว่า นั่นแหล่ะบ้านของเขา ใช้เวลาบินด้วยแสงราว 9 ชั่วโมงเวลามนุษย์จึงถึง เขาบอกว่ามีลูก 1 คน ตัวเขาภรรยาและลูก ไม่มีอวัยวะเพศ แต่แบ่งเป็นชายหญิง เมื่ออยากมีลูกกัน ชายหญิงก็ยืนจ้องหน้ากัน เอามือ 2 ข้างแตะกัน ลูกก็จะเกิดทันที ลอยลงมาในแคปซูลและต้องเอาไปเลี้ยงให้ตัวโต

3. จากหนังสือ Top Secret เขียนโดย Timothy Good ได้กล่าวถึงจานบินลำหนึ่งว่ามาตก ที่ใกล้ภูเขา ในอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 1958 ซึ่งทางกงศุลอเมริกัน ได้ส่งคนพร้อมตำรวจไทย ไปค้นหายูเอฟโอที่ตก แต่ไม่พบ และได้เขียนจดหมายลับ รายงานทำเนียบขาว มีหลักฐานแน่ชัด

4.มีเพื่อนของผู้เขียน อยากเห็นมนุษย์ต่างดาวมาก จึงบอกให้ไปหาพระทีลำพูน พอแจ้งความประสงค์ให้พระทราบพร้อมกับนามบัตรของผู้เขียน พระท่านก็บอกว่า คืนนี้ให้ไปนอนในโบสถ์ ห้ามส่งเสียงดัง ราว 2 ยามกว่า จะได้เห็นอะไรดี ๆ เพื่อนของผู้เขียนเล่าว่า เข้าไปนอนในโบสถ์ใหญ่ที่อำเภอลี้คนเดียว ในโบสถ์พระท่านให้เปิดไฟไว้บางดวง เพื่อไม่ให้กลัว และแล้วราว 2 ยามกว่า เพื่อนผู้เขียนบอกว่า เห็นพระเดินเข้ามาในโบสถ์กับมนุษย์คนหนึ่ง ตัวสูงกว่าพระราว 1 คืบ แต่งชุดแนบเนื้อสีฟ้า ใส่บูตดำยาวถึงหัวเข่า มีแขนขาเป็นมนุษย์ แต่มือรู้สึกยาวผิดปกติ คือถึงเข่า มีนิ้วยาว 3 นิ้ว มนุษย์ตนนี้เดินเข้ามาอย่างเงียบมาก และมาหยุดก้มดูเพื่อนของผู้เขียนด้วย ทำให้เขาเห็นว่า มนุษย์ผู้นี้หน้าเป็นสี่เหลี่ยม ตาใหญ่ จมูกและปากเล็ก หน้าและมือใสเหมือนแก้ว เพื่อนผู้เขียนบอกว่ารู้สึกตกใจกลัวมาก ตัวสั่นไปหมด แต่แล้วมนุษย์ประหลาดก็เดินตามพระไปหลังโบสถ์ พอรุ่งขึ้นได้พบกับพระคุณเจ้า ท่านก็ถามว่า...เห็นของจริงแล้วชอบไหม คืนนี้คุยกับเขาไหมล่ะ เพื่อนผู้เขียนรีบกราบลาบอกท่านว่า ลูกได้เห็นครั้งหนึ่งก็เป็นบุญตา แต่ถ้าต้องคุยด้วยไม่เอาแล้วครับ พระท่านก็ยิ้ม ๆ ไม่พูดว่ากระไร

สิ่งมีชีวิตสองรูปแบบที่เกี่ยวข้องกับยูเอฟโอ นี้เป็นผู้ที่ติดต่อกับผู้เขียนตลอดมา ทั้ง 2 ท่าน กล่าวเหมือนกันว่า ต้องการมาเตือนมนุษย์เกี่ยวกับ ภัยพิบัติใหญ่ ที่จะเกิดขึ้นทั่วโลกรายละเอียดเกี่ยวกับมนุษย์ต่างดาว 2 คนนี้มากมายที่จะเล่าสู่กันฟังได้ แต่จะเป็นความจริงแค่ไหนผู้เขียนไม่ทราบ ต้องรอให้อนาคตเป็นตัวพิสูจน์ความถูกต้องและความจริง...


จ.ส.อ.เชิด  ชื่นสำนวน 
และ
ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน 
ที่เขากะลา
วันที่  11  เมษายน  2541


จ.ส.อ.เชิด  ชื่นสำนวน  และ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ที่เขากะลา
วันที่  11  เมษายน  2541





ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน 
และ  สมาชิกกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) 
วันที่  16 ธันวาคม  2547



ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ท่านเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน ufo เป็นอย่างยิ่ง  และท่านพบเห็นจานบินหลายครั้ง  ทั้งในประเทศและต่างประเทศ  มานานหลายสิบปี

จนในระยะหลัง  ท่านสามารถสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวจากดาวอังคารได้  และมีการบันทึกภาพจานบินในประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก

ซึ่งกลุ่มเขากะลาในขณะนั้น  ได้มีการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2540 
โดย จ.ส.อ.เชิด  ชื่นสำนวน  เป็นผู้ได้รับคลื่นสื่อสารจากต่างดาวโดยทางโทรจิต

และได้เดินทางมาที่งานวิทยาศาสตร์ทางจิต นานาชาติครั้งที่ 2  ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง 
เพื่อให้ผู้ที่เชี่ยวชาญเรื่องของ ufo และมนุษย์ต่างดาว   ได้รับทราบ   ทำการพิสูจน์ว่าการติดต่อกับมนุษย์ต่างดาวผ่าน จ.ส.อ.เชิด  ชื่นสำนวน  มีความชัดเจน   มากน้อยเพียงใด?

และได้พบกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  เป็นครั้งแรก  เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2540 
ณ งานวิทยาศาสตร์ทางจิตนานานาชาติครั้งที่ 2  ที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง  กรุงเทพฯ

ได้นำเทปบันทึกเสียงของมนุษย์ต่างดาว  และข้อมูลการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว  มอบให้กับท่าน





จ.ส.อ.เชิด  ชื่นสำนวน 
เยี่ยมชมบูธนิทรรศการมนุษย์ต่างดาว 
ของ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน

ในคืนวันที่ 14 ธันวาคม 2540 

จ.ส.อ.เชิด  ชื่นสำนวน  และ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ได้ร่วมกันสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว 
เพื่อเชิญให้นำยานอวกาศมาปรากฏให้มนุษย์โลกได้รับชมในคืนนี้





ซึ่งการส่งโทรจิตสื่อสารไปยังมนุษย์ต่างดาวนั้น  ได้รับคำตอบจากมนุษย์ต่างดาวผ่านมาทาง จ.ส.อ.เชิด  ชื่นสำนวน ว่า
  จะนำยานอวกาศมาปรากฏให้ชม  ในวันที่ 3  มกราคม 2541  ที่จังหวัดสิงห์บุรี

จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน  จึงได้แจ้งข้อมูลที่ได้รับการสื่อสารมาให้ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน 
และประชาชนที่มารอรับชมในคืนนั้น ได้รับทราบด้วย



วันที่  11  เมษายน  2541

ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ผู้ติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวจากดาวอังคาร แจ้งว่า  จะเดินทางมาเยี่ยมชม "กองบัญชาการมนุษย์ต่างดาว" ที่เขากะลา นครสวรรค์

กลุ่มเขากะลา  ได้เดินทางไปรับท่าน  ณ โรงแรมพิมาน  จังหวัดนครสวรรค์  ในวันที่ 11 เมษายน 2541




ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  เดินทางมาถึงเขากะลา 
โดยมี  จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน  ให้การต้อนรับ 
ในวันนั้น  ได้มีคณะบุคคลต่าง ๆ เดินทางมาสมทบที่เขากะลาอีกเป็นจำนวนมาก




















ในวันนี้  ได้มียานอวกาศ บินมาปรากฏ 7 ลำ  ซึ่ง ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน 
และ มิสเตอร์จอห์น  ฮอร์เน็ต  รวมถึงช่างภาพอิสระ  ก็สามารถบันทึกภาพไว้ได้



ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ได้นำไปจัดแสดงในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 3  ด้วย

วันที่ 10- 13  ธันวาคม  2552

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้ร่วมออกบูธ นิทรรศการ ufo  กับ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  โดยมีอาจารย์หนุ่ย (เทพบุตรชาวดิน) อาจารย์ไก่  (sutatip_b) อาจารย์แตง (microwave) และอาจารย์ A.41 อยู่ประจำบูธ ในวันที่ 10 - 13 ธันวาคม 2552

เนื่องจาก  สมาชิกกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ในส่วนใหญ่  ต้องเดินทางไปทำกิจกรรมรักษาโรค สแกนกรรมที่บ้านธัมมะสุขใจ  อุตรดิตถ์ ในวันที่ 12-13 ธันวาคม 2552   ซึ่งได้รับเชิญมาล่วงหน้าก่อนแล้วนั้น  จึงไม่ได้อยู่ประจำ ณ บูธนิทรรศการ ufo ดังกล่าว
ภาพดังกล่าวต่อไปนี้  จึงเป็นการรายงานบรรยากาศภายในงาน  และภาพต่าง ๆ จากอาจารย์หนุ่ย (เทพบุตรชาวดิน)

ภาพบรรยากาศงานวิทยาศาสตร์ทางจิต ซึ่ง ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน
ขึ้นบรรยายในหัวข้อเรื่องมนุษย์ต่างดาว สามารถช่วยมนุษย์โลก ได้จริงหรือ?   เมื่อวันที่ 10-12-52



















กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)เข้าร่วมออกบูธกับ ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน

เจ้าหน้าที่ประจำบูธ







บรรยากาศภายในบูธ

































แม่ชีเทพ นวรัตน์ ซึ่งเป็นเขากะลารุ่นหนึ่ง ขึ้นบรรยายเรื่องชีวิตอัศจรรย์








แม่ชีมาแวะมาเยี่ยมที่บูธ





ออร่าของท่านแม่ชี


วันที่  11  เมษายน  2541

ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  เดินทางมาถึงเขากะลา 
โดยมี  จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน  ให้การต้อนรับ

มีวัตถุบิน  จำนวน 3 ลำ  บินตามกันมา    ขณะที่ ดร.เทพนม  ขึ้นมาบนเขากะลา

ลำแรก.....มีไฟหลายสีหมุนรอบ และเปลี่ยนไฟไปเรื่อย ๆ หลายสี  แต่ละจุดเปลี่ยนสีหมุนไปหมุนมา  ไม่มีเสียง 

ลำที่ 2  เป็นดวงสีขาวคล้ายดาวแต่ใหญ่กว่ามาก  ลอยตามลำแรกมา  พอมาถึงกลางเขากะลา  ก็หยุดอยู่กลางศรีษะผู้ชมที่กำลังแหงนดูอยู่  จึงส่งเสียงเฮฮากันอย่างมาก

และลำที่ 3  เป็นไฟกระพริบ  บินตามลำที่ 2  แล้วบินผ่านลำที่ 2  ที่จอดนิ่งอยู่  แล้วตามลำที่ 1 ไปทางทิศใต้

วัตถุบินไฟดิสโก้หลายสี  หมุนไปมาโดยรอบ




ช่างภาพสมัครเล่น บันทึกภาพไว้ได้  มีผู้อยู่ในเหตุการณ์ประมาณ 50 - 60 ท่าน



วันที่  17 พฤษภาคม  2541

มีการจัดทำบุญบนเขากะลา   ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน และคณะ   ได้เดินทางมาร่วมในพิธีทำบุญ ณ เขากะลา จ.นครสวรรค์

ซึ่งในวันนั้น มีคณะบุคคลจำนวนหลายร้อยท่าน  เดินทางมาร่วมในพิธีด้วย

ดร.เทพนม เมืองแมน ได้สนทนากับ จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน (ขออภัยค่ะ ไม่ได้บันทึกภาพขณะสนทนากันไว้) ถึงเรื่องความคืบหน้าในการสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว

ในคืนนั้น ได้มีการปรากฏของยานอวกาศจากต่างดาวหลายลำ  และมีการนำยานอวกาศลงจอดบนเนินเขา  พร้อมทั้งมีมนุษย์ต่างดาว  3  ร่าง  ลงเดินสำรวจพื้นที่รอบเขากะลา 

อาจารย์จากเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา  ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของ อาจารย์เทพนม  จำนวน 2 ท่าน  และหน่วยกู้ภัย  รวม  6 ท่าน  ติดตามร่างเรืองแสงนั้นไปอย่างใกล้ชิด  แต่พอเข้าไปใกล้  ปรากฏว่าร่างนั้นลอยหนีขึ้นไปบนยอดเขา  ซึ่งห่างไปประมาณ 3 กม.

ขณะลอยเหิรขึ้นไปบนยอดเขา  มีผู้เห็นเหตุการณ์นับร้อยคน  ที่กำลังเฝ้าดูการติดตามมนุษย์ต่างดาวของทีมพิสูจน์

จะนำรายละเอียดมาลงให้ทราบอีกครั้งหนึ่งค่ะ


ในคืนนั้น  ดร.เทพนม  อยู่ในเหตุการณ์ด้วย  และได้บันทึกภาพ จานบินที่เขากะลาไว้ได้ส่วนหนึ่ง












วันที่ 1  กันยายน  2541

กลุ่มเขากะลา  เดินทางเข้าเยี่ยม  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน   ณ บ้านพักของท่านที่กรุงเทพฯ 

ซึ่งท่านเข้ารับการผ่าตัดหลังที่โรงพยาบาล  และมาพักฟื้นที่บ้านพัก

ท่านให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง  และท่านได้สนทนาข้อมูลล่าสุดที่ได้รับการติดต่อจากดาวอังคาร








กลุ่มเขากะลา  ได้มอบภาพยานอวกาศ   ที่บันทึกได้ที่เขากะลา 
ให้กับ ดร.เทพนม  เมืองแมน  เพื่อให้ท่านรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ถึงการปรากฏของ ufo ในประเทศไทย 
และเป็นข้อมูลเพื่อศึกษา  วิเคราะห์  และใช้ข้อมูลอ้างอิงในการบรรยายด้วย


วันที่ 7  กุมภาพันธุ์  2542

จ.ส.อ.เชิด  ชื่นสำนวน  นำคณะฯ กลุ่มเขากะลา  เดินทางไปพบ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน 
ณ บ้านพักของท่านที่กรุงเทพฯ   ร่วมสนทนา และนำข้อมูลล่าสุดไปให้ท่าน 
ซึ่ง ดร.เทพนม  ท่านได้ให้การต้อนรับกลุ่มเขากะลาอย่างอบอุ่น






พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณ  ที่กลุ่มเขากะลามอบภาพยานอวกาศให้ท่านได้นำไปเผยแพร่ 

และท่านได้นำภาพดังกล่าวไปวิเคราะห์แล้ว   เห็นว่าเป็นภาพบันทึกวัตถุลึกลับจริง  ไม่ได้ตกแต่งใด ๆ
ท่านจึงนำไปจัดแสดงในบูธ  นิทรรศการมนุษย์ต่างดาว  ภายในงานวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 3 ด้วย

กลุ่มเขากะลา  ได้เดินทางไปเยี่ยมชมบูธ  นิทรรศการมนุษย์ต่างดาว  ของ ดร.เทพนม  เมืองแมน  ซึ่งมีภาพยานลงจอดที่เขากะลา 










และภาพที่  ดร.เทพนม  บันทึกจานบินได้ที่เขากะลา  มาจัดแสดงไว้ในบูธของท่าน  จำนวนหลายภาพ




มนุษย์ต่างดาวบอกอะไร?

--------------------------------------------------------------------------------

สิ่งหนึ่งที่มนุษย์ต่างดาวเคยบอกไว้ก็คือ

ในช่วงวิกฤต ยานพาหนะของมนุษย์ไม่สามารถใช้การได้ ก็ต้องใช้จานบินในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน และผู้ที่มากับจานบิน ถ้าเป็นมนุษย์ต่างดาวเดินลงมา ก็ย่อมเป็นที่ตื่นตระหนก ตกใจของมนุษย์โลก แต่ถ้าผู้ที่เดินลงมาจากจานบิน เป็นมนุษย์โลกเหมือนกัน ก็จะมีความไว้วางใจกันในระดับหนึ่ง และถ้ายิ่งมนุษย์คนนั้น เป็นคนที่กลุ่มผู้ต้องได้รับการช่วยเหลือรู้จัก ก็ย่อมไว้วางใจได้มากยิ่งขึ้น ดังนั้น ไม่ว่าบุคคลนั้นจะเป็นมนุษย์บนโลกนี้ ไปกับยานอวกาศลำนั้น หรือเป็นการ copy ร่างมนุษย์คนนั้น ลงไปปรากฏก็ตาม ดังที่เขาเคยทำตัวอย่างไว้ให้เห็นแล้วนั้น ทุกอย่างทำเพื่อความเหมาะสม และเพื่อช่วยเหลือมนุษย์ทั้งสิ้น

ดังนั้น การเตรียมการจึงต้องใช้เวลา ต้องเตรียมหลายด้าน ทั้งบุคคลที่ต้องจัดวางไว้ ทั้งสภาพยานอวกาศที่ต้องจัดทำ และสำรองอากาศของมนุษย์เข้าไปไว้ด้วย เพราะในต่างประเทศก็เคยมีตัวอย่างลงหนังสือมากมาย เขาจับมนุษย์ขึ้นไปในยาน และสภาพในยานจะเป็นห้องโล่ง ๆ จากนั้นก็นำมนุษย์ลงมาส่ง โดยไม่ได้ทำอันตรายใด ๆ อาจจะเป็นไปได้ว่า ทดลองนำมนุษย์เหล่านั้น ไปทดลองหายใจในอากาศที่จัดทำไว้ก็ได้ ซึ่งในวันที่ 5 มกราคม 2550 กลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ 4 ท่านที่ได้เดินทางไปเขากะลา และมีเหตุการณ์เรื่องมิติยานลำใหญ่ ซ้อนทับมิติปกติบนหน้าลานพระ ซึ่งทุกคนสัมผัสได้ ในเหตุการณ์วันนั้น คุณคณานันท์ ได้นั่งสมาธิส่งจิตขึ้นไปสัมผัสบนยานลำนั้น ก็ได้เห็นว่า บนยานลำนั้น มีแต่ห้องกว้าง ๆ สีขาว เท่านั้น และเห็นเพียงนิดเดียวภาพก็ถูกตัดหายไป เพราะทุกคนที่อยู่บนลานพระหลับพร้อมกันหลังจากนั้น

คุณ mead ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ด้วย อาจจะเล่าเสริมให้เพื่อน ๆ ได้รับฟังบ้าง เพราะคุณคณานันท์ ได้เล่าให้ทุกคนฟังเรื่องเห็นภายในยานฯ ลำนั้น ซึ่งทุกคนก็ได้รับฟังพร้อมกับพี่สุดใจด้วย

ก็น่าแปลก ที่เห็นเป็นห้องโล่ง ๆ เหมือนกันกับผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในต่างประเทศหลายท่าน แต่มุมมองของคนไทย จะไม่ตื่นตระหนก หรือตกใจใด ๆ ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่ได้ไปเห็น

สิ่งที่จะบอกก็คือ ไม่ว่าสิ่งเหล่านี้ ท่านจะเชื่อหรือไม่เชื่อก็ตาม มนุษย์ต่างดาวที่มาทำโครงการนี้ ก็ยังต้องช่วยเหลือมนุษย์อยู่ดี และสิ่งที่เขามุ่งเน้น ไม่ใช่ทุกคนจะต้องเชื่อ จะต้องเข้าใจ เพราะจุดมุ่งหมายของการเตรียมการ คือบุคคลที่ต้องร่วมงานในโครงการเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติที่เขาวางไว้เท่านั้น ในขั้นต้น ดังนั้น บุคคลต่าง ๆ นี้ ก็จะได้สัมผัส ได้เห็น และได้รับรู้ด้วยตนเอง ใช้การพิจารณาในสิ่งที่ตนเห็นมาด้วยตนเอง ไม่ได้เชื่อ ๆ ตามกันไป

ดังนั้น ท่านที่ยังไม่เคยสัมผัส ไม่เคยเห็น ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องไม่เชื่อ ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เหมือนคนที่เคยเห็นวิญญาณ กับคนที่ไม่เคยเห็น ก็มีความคิดที่ต่างกัน ไม่มีใครผิด ไม่มีใครถูก

ดร.เทพนม เมืองแมน ท่านเคยเห็น ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า เคยสัมผัสได้ ติดต่อได้ ถ่ายภาพได้ แม้ท่านจะเป็นนักวิทยาศาสตร์ เป็นแพทย์ มียศฐาบรรดาศักดิ์มากมาย การที่จะออกมาทำเรื่องหลุดโลกเช่นนี้ นับว่าเป็นเรื่องที่ท่านกล้าหาญมาก เพราะจะมีสักกี่คนที่กล้าอย่างท่าน แม้จะไม่มีตำแหน่งใหญ่โตเท่าท่านก็ตาม

ดังนั้น การที่ท่านได้พบ ได้เห็น ได้สัมผัส และรับรู้เรื่องราวต่าง ๆ ในความปราถนาที่จะมาช่วยโลกของมนุษย์ต่างดาวแล้ว ท่านย่อมต้องใช้การพิจารณาอย่างมาก ต้องมีการพิสูจน์ ทดสอบ ทดลอง จนท่านแน่ใจ ท่านจึงยอมกล้าเสียสละในหน้าที่การงาน ชื่อเสียง และการถูกมองในลักษณะของความไม่น่าเชื่อถือเช่นนี้ นับว่าเป็นการเสียสละอย่างมากของท่าน

แต่ถึงใครจะมองอย่างไร ท่านก็ต้องทำอย่างนั้นอยู่ดี เพราะความมีคุณธรรม ความปราถนาจะช่วยเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ท่านจึงพร้อมที่จะทำ ไม่ว่าวิถีทางใดก็ตาม ถ้าไม่เช่นนั้น ในวันนี้ เราจะไม่มีผู้ที่เปิดตำนานของ UFO ในประเทศไทย หากท่านไม่เสียสละเช่นนี้


จ.ส.อ.เชิด ชื่นสำนวน ก็เช่นกัน แม้ท่านจะเป็นเพียงทหารจากต่างจังหวัด ชอบทำสมาธิ ปฏิบัติธรรม เป็นคนสมถะ ไม่ชอบวุ่นวายกับเรื่องต่าง ๆ มากนัก แต่เมื่อท่านได้รับรู้ ได้เห็นถึงความปราถนาดีของผู้ที่มาจากต่างจักรวาล หรือจากดวงดาวต่าง ๆ เพื่อมาช่วยมนุษย์บนโลกนี้ และเห็นวัตถุบินที่นำมาปรากฏให้เห็นพร้อมครอบครัว ซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า และต้องใช้ความมีสมาธิของท่าน เป็นตัวสื่อผ่านถึงมนุษย์โลก ท่านจึงกล้าที่จะออกมาทำเรื่องนี้ แม้มันจะขัดกับความสมถะ ความสงบของท่านก็ตาม ซึ่งจะเห็นได้จากหน้าหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ เมื่อหลังจากวันที่ 3 มกราคม 2541 ที่นัดหมายจานบินที่สิงห์บุรี จะพาดหัวข่าวว่า จ่าจอมลวงโลก จ่าจอมโทรจิต จ่าจอมโกหก อะไรอีกมากมายในเนื้อข่าว แม้ท่านจะท้อในตอนนั้น แต่สิ่งที่ได้รับรู้ถึงภัยพิบัติที่จะเกิดกับโลกใบนี้แล้ว ท่านก็กล้าที่จะกลับมาเพื่อรับข้อมูลการสื่อสาร ดำเนินโครงการร่วมกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลาอีกครั้ง จนได้เกิด "กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)" ในวันนี้

ทั้งสองท่าน แม้จะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ในแทบทุกด้าน แต่สิ่งหนึ่งที่เหมือนกันก็คือ ความเสียสละ ความปราถนาดี ความมีคุณธรรมในจิตใจ และพร้อมที่จะเป็นผู้ให้เสมอมา

วันนี้ เราจึงมีตำนานของ 2 ผู้สื่อสารกับ UFO เกิดขึ้นที่นี่
ที่....ประเทศไทย 



   
ย้อนกลับไปในช่วงหลายปีก่อน  กลุ่มเขากะลาในขณะนั้น 
ได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  เชิญมาร่วมบรรยาย  เรื่อง  การติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา   ณ  โรงแรมรัตนโกสินทร์แห่งนี้   โดยร่วมบรรยายหลายครั้ง   ตั้งแต่ปี 2543 เรื่อยมา


ในปี 2543  กลุ่มเขากะลา  อยู่ในช่วงฝึก   ได้เดินทางมาบรรยายเรื่องของการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา
ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์  ในการสัมมนาของสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย  ซึ่งเป็นการมาบรรยายเป็นครั้งแรก 
โดยมี ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ท่านเป็นนายกสมาคม 

ได้มีผู้สนใจสอบถามข้อมูลเป็นจำนวนมาก






ดร.นัยพินิจ  คชภักดี  ท่านได้เป็นพิธีกร  แนะนำกลุ่มเขากะลาให้สมาชิกของสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย  ได้รับทราบ

และคุณวาสนา  ชื่นสำนวน  กล่าวถึงประวัติและการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา  ให้ผู้สนใจได้รับทราบด้วย





หลังจากเลิกการบรรยายแล้ว  กลุ่มเขากะลา ได้ร่วมสนทนากับ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  และแจ้งข้อมูลข่าวสารความคืบหน้าในการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลาให้ท่านได้รับทราบ
มีผู้สนใจจำนวนหนึ่งร่วมรับฟังด้วย




ถัดจากนั้น  ก็ได้รับเกียรติเชิญไปบรรยายที่โรงแรมรัตนโกสินทร์อีก   ในหัวข้อเรื่องเกี่ยวกับ ufo ในประเทศไทย  เนื่องจากมีผู้สนใจเป็นจำนวนมาก  ต้องการรับทราบรายละเอียดของเขากะลาเพิ่มเติม

ซึ่งในวันนี้  ได้แจ้งกับทางผู้จัดสัมมนาว่า  จะนำภาพยานอวกาศที่ปรากฏที่เขากะลา  บันทึกไว้เป็นม้วนวีดีโอ   มาให้สมาชิกได้รับชมด้วย 
ซึ่งทางผู้จัดสัมมนา  ได้จัดเตรียมเครื่องเล่นวีดีโอ  และโทรทัศน์ไว้ให้ด้วย









มิสเตอร์จอห์น  ฮอร์เน็ต   วิศวกรชาวอังกฤษ  ช่างภาพผู้บันทึกภาพ เปิดมิติกองบัญชาการที่เขากะลา  ภาพคนเรืองแสงลงเดิน  และภาพวัตถุลึกลับได้เป็นจำนวนมากที่เขากะลา   ได้เดินทางมาจากฉะเชิงเทราเพื่อร่วมงานด้วย 

และได้ออกมาเล่าประสบการณ์การพบเจอจานบินที่เขากะลา   ภาพที่บันทึกได้ และรายละเอียดประกอบภาพ  และตอบข้อซักถามว่าเหตุใดจึงเชื่อว่าเป็น ufo

ท่านได้เล่าให้ฟังเป็นภาษาอังกฤษ  และ ดร.นัยพินิจ  ท่านได้แปลให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้รับฟังอีกต่อหนึ่ง


วันที่ 9 - 11  ธันวาคม  2543

งานวิทยาศาสตร์ทางจิต  นานาชาติครั้งที่ 5

ในวันที่  9  ธันวาคม  2543

กลุ่มเขากะลา  ได้เดินทางไปร่วมงานวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 5 
ที่จัดขึ้น ณ วิทยาลัยรัชภาคย์  กรุงเทพฯ

และเดินทางไปพบกับ  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน 
ณ บูธ  นิทรรศการ ufo และมนุษย์ต่างดาว 
ที่จัดแสดงภายในงานวิทยาศาสตร์ทางจิตฯ ครั้งที่ 5  นี้

ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ท่านยินดีที่เขากะลาเดินทางไปร่วมงานด้วย 
และท่านได้บรรยายภาพต่าง ๆ ให้กับผู้สนใจได้รับทราบ 
เรื่องของ ufo  ในประเทศไทย
และมีหลายท่านให้ความสนใจเรื่องของ เขากะลา นครสวรรค์ 

ซึ่งท่านได้นำภาพ ufo  ที่บันทึกได้ ณ เขากะลา  บางส่วน 
มาแสดงภายในบูธด้วย






และได้มีการนำภาพวีดีโอ 
ยานลงจอดที่เขากะลา  มนุษย์ต่างดาวออกจากยานฯ 
และภาพการเปิดมิติที่เขากะลา
มาฉายให้ผู้สนใจได้รับชมภายในบูธด้วย

มิสเตอร์จอห์น  ฮอร์เน็ต  ผู้บันทึกภาพเปิดมิติกองบัญชาการที่เขากะลา 
ก็มาร่วมงานด้วย และให้ข้อมูลภาพที่บันทึกได้แก่ผู้สนใจ






ได้มีผู้สนใจข้อมูลของกลุ่มเขากะลา  เป็นจำนวนมาก  ได้มาสอบถามข้อมูล 
ซึ่งคุณวาสนา  และคุณสุดใจ  ได้ให้ข้อมูลในรายละเอียดของ 
การติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา
แก่ผู้ที่สนใจด้วย


วันที่  9  ธันวาคม  2547

ทีมงานบันทึกเทป  V.I.P. นำโดยคุณยศสันต์  เสริญไธสง (คุณกราฟ) นำคณะเดินทางมาบันทึกภาพและพักบนเขากะลา  เพื่อดูว่า  วัตถุบินที่มาปรากฏนั้น  เป็นจานบินจริงหรือไม่ ?

ซึ่งปรากฏว่า  มีวัตถุบินลึกลับหลายลำที่ไม่สามารถอธิบายได้  เพราะแตกต่างจากเครื่องบินตามปกติ  ทีมงานจึงบันทึกภาพไว้

ตอนเช้า  ประมาณ  07.00  นาฬิกา  คุณยศสันต์ เสริญไธสง  หัวหน้าทีม  ได้เห็นยานอวกาศด้วยตัวเอง  เป็นสีเงินเงาวับ  บินเหนือไร่อ้อยในระดับต่ำ  บริเวณด้านล่างเขากะลา  จึงเรียกให้ทีมงาน  และคนอื่น ๆ มาดู  แต่ไม่ทัน  เนื่องจากวัตถุบินลำดังกล่าวได้บินหายไปแล้ว

ในวันที่  13 ธันวาคม  2547  คณะผู้ถ่ายทำรายการ V.I.P. ทางช่อง 9  โดยมีคุณยศสันต์  เป็นหัวหน้าทีม  นำคณะช่างภาพและทีมงาน  มาบันทึกภาพบนเขากะลาอีกครั้ง  เพื่อออกอากาศทางรายการ V.I.P. ทางช่อง 9

ในหัวข้อเรื่อง   " การติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวในประเทศไทย "





วันที่  16  ธันวาคม  2547 

ทางรายการ V.I.P. ได้เชิญกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  ไปบันทึกเทปรายการ วี.ไอ.พี.
ที่สตูดิโอ ในกรุงเทพฯ 

และได้เรียนเชิญ  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ซึ่งท่านเป็นผู้ที่ศึกษา  และเชี่ยวชาญเรื่องของ ufo
ซึ่งท่านได้ติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว  จากดาวอังคาร  มาบันทึกเทปร่วมกันในครั้งนี้ด้วย





กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  ได้สนทนาร่วมกับ  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ในการทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาว  ในระบบการประสานงานเพื่อการเตือนภัย   ซึ่งมนุษย์ต่างดาวมาเตือนเรื่องภัยพิบัติทางธรรมชาติ  ซึ่งจะเกิดขึ้นกับโลกใบนี้  และจะทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ






หลังจากนั้นก็เข้าสู่การบันทึกรายการ V.I.P.  ซึ่งพิธีกรก็คือ  คุณญาณี  จงวิสุทธิ์  และคุณพอล   ภัทรพล
การสัมภาษณ์ถึงเรื่องการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว  และเหตุที่มนุษย์ต่างดาวเดินทางมาโลกมนุษย์  และการเตือนเรื่องของภัยพิบัติทางธรรมชาติจากมนุษย์ต่างดาว

และได้เรียนเชิญ  ดร.เทพนม  เมืองแมน  ผู้เชี่ยวชาญด้าน ufo ในประเทศไทย  มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ufo ในประเทศไทย  และการเตือนเรื่องภัยพิบัติจากมนุษย์ต่างดาว  จากดาวอังคาร ที่ท่านติดต่อสื่อสารด้วย

บันทึกรายการเมื่อวันที่ 16  ธันวาคม  2547  ผ่านไปเพียง 10  วัน  เกิดคลื่นยักษ์ สึนามิ  ถล่มภาคใต้  (26 ธันวาคม 2547)  มีผู้เสียชีวิตกว่า 5,000  คน  ในประเทศไทย  และกว่า  230,000 คน ในเหตุการณ์ครั้งนี้

เทปรายการอัดไปเกือบ 3  ชั่วโมง  และข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัติหลายตอนได้ถูกตัดออก เนื่องจากเกิดเหตุการณ์เกี่ยวกับสึนามิ 

เทปรายการนี้จึงต้องเลื่อนการออกอากาศออกไป  เพราะอยู่ในช่วงไว้อาลัยต่อการสูญเสียในเหตุการณ์ครั้งนี้
และรายการวีไอพี  ได้ออกอากาศทางช่อง  9  ในวันที่  17 มกราคม  2548  เวลา  20.30  นาฬิกา.




วันที่  17  มกราคม  2548

รายการ  V.I.P. 

เรื่อง

"การติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวในประเทศไทย"

ออกอากาศทางช่อง 9  อ.ส.ม.ท.








วันเสาร์ที่  30  เมษายน  2548

สมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย

และ

ชมรมศึกษาวิทยาศาสตร์ทางจิต

โดย.  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  เป็นประธานฯ


ได้เชิญ  กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) 
เข้าร่วมบรรยายในหัวข้อ 
ความก้าวหน้าในการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว และ  UFO.

ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์  กรุงเทพฯ



วันที่  30 เมษายน  2548

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) 
เข้าร่วมบรรยายในหัวข้อ 
ความก้าวหน้าในการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว และ  UFO.

ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์  กรุงเทพฯ


โดยคุณสุดใจ  ชื่นสำนวน

และคุณดุษฎี  ประสมสุข

และนำภาพวีดีโอ  จานบิน  และมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา
ไปฉายให้ผู้สนใจได้รับชมด้วย








คุณสายฟ้า  เศรษฐบุตร   ให้ความสนใจเดินทางมาร่วมรับฟังการบรรยายด้วย
และได้สนทนากับ  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ถึงเรื่องของ ufo 
และรับชมภาพที่อาจารย์เทพนม บันทึกไว้ได้



วันที่  3  พฤษภาคม  2548 

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
โดยคุณสุดใจ  ชื่นสำนวน  คุณอนุ  และคุณอนวัช  พัฒนาพรรณ์

ได้เดินทางเข้าพบ  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ที่บ้านพักของท่าน

เนื่องจาก  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ท่านได้นำภาพมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา 
ซึ่งคุณอนวัช  บันทึกได้จำนวนหลายภาพ   ไปพิสูจน์ว่าเป็นภาพมนุษย์ต่างดาวจริงหรือไม่ ? 

พบว่าเป็นภาพจริงไม่ได้มีการตัดต่อใด ๆ 







ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ท่านได้นำภาพจานบิน  ที่บันทึกได้เป็นจำนวนมาก  ในรูปแบบต่าง ๆ มาให้ชม 

และมอบภาพมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา  ซึ่งท่านขยายแล้วให้กับคุณอนุ  พัฒนาพรรณ์  นำกลับไปด้วย

ซึ่งภาพด้านล่าง  เมื่อวันที่ 10  ตุลาคม  จากภาพมนุษย์ต่างดาวเรืองแสงที่เดินอยู่ใต้ดวงไฟที่เขากะลา 

เมื่อขยายออกมาแล้วพบว่า  เป็นรูปร่างคล้ายมนุษย์  แต่แขนยาวมาก และชุดที่ใส่เป็นปล้อง  คล้ายชุดเกราะ 




กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) 
ได้รับเกียรติจากสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย
เชิญเข้าร่วมบรรยาย ในหัวข้อเรื่อง 

ประสบการณ์ของ UFO  และมนุษย์ต่างดาว  และ
ความก้าวหน้าในการติตต่อกับมนุษย์ต่างดาว

โดย ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  และตัวแทนจากชุมชนเขากะลา

ในวันที่  24  กันยายน  2548

ณ  โรงแรมรัตนโกสิทนทร์  ถนนราชดำเนิน  กรุงเทพฯ



ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  นายกสมาคมค้นคว้าทางจิตแห่งประเทศไทย  กล่าวเปิดงาน  และบรรยายเรื่องการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว  พร้อมทั้งนำภาพถ่ายยานอวกาศในรูปแบบต่าง ๆ ที่บันทึกไว้ได้ในประเทศไทย  ให้สมาชิกและผู้สนใจได้รับชม


ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ได้เชิญกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ให้ข้อมูลความคืบหน้าในการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวจากเขากะลา 

กลุ่มประสานงานฯ  ได้เดินทางไปร่วมประชุมจำนวน 4 ท่าน  คือคุณวาสนา  ชื่นสำนวน  คุณสุดใจ  ชื่นสำนวน  คุณโสภา  วรรณอนันต์  และคุณอภิชาติ  แพรริ้วทอง 



 







คุณวาสนา  ชื่นสำนวน  ให้ข้อมูลประวัติความเป็นมาของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ตั้งแต่ปี 2540  จนถึงปัจจุบัน  ข้อมูลการฝึกบุคคลเป็นกลุ่มโดยมนุษย์ต่างดาว   และสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวมาวางระบบเตือนภัย  และโครงการช่วยเหลือมนุษย์โลกจากเหตุของภัยพิบัติ







สมาชิกและผู้สนใจได้สอบถามข้อมูลต่าง ๆ  ทั้งเรื่องของการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว  และเรื่องการเตือนภัยพิบัติต่าง ๆ จะเป็นรูปแบบใด  ซึ่งคุณวาสนา  ได้อธิบายและตอบคำถาม  ทุกคำถามของผู้สอบถามในวันนั้น

7/11/2005

งานแถลงข่าว   

สารคดี  UFO IN THAILAND 

เชื่อหรือไม่  UFO มาเมืองไทย

ณ เซ็นทรัลลาดพร้าว  ชั้น 1  กรุงเทพฯ

วันที่ 7 พฤศจิกายน 2548





ทีมงานจัดทำสารคดี  UFO IN THAILAND 
ได้จัดงานแถลงข่าวให้สื่อมวลชนได้รับทราบถึงการเปิดตัว
"สารคดี  UFO IN THAILAND" 






บริษัทจัดทำสารคดี   UFO IN THAILAND

จัดแถลงข่าวเปิดตัวสารคดีเกี่ยวกับ ufo  ที่ได้จัดทำขึ้นมา

สารคดีชุดนี้   ได้เดินทางไปถ่ายทำที่แดนมิตรต่างดาว  จังหวัดเพชรบุรี
และไปถ่ายทำเรื่องของ UFO ที่เขากะลา  จังหวัดนครสวรรค์  ที่มีผู้พบเห็นมากที่สุด

ได้เรียนเชิญ  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน 
และกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)
 
ร่วมงานแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในครั้งนี้

โดยมีสมาชิกกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  จำนวน 9 คน เดินทางไปร่วมงาน

ได้ร่วมสนทนากับ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน   และทีมงานสารคดี   ก่อนเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ















ทีมงานสารคดี  UFO IN THAILAND  ดารา และนักแสดงหลายท่าน 
ให้ความสนใจเดินทางมาร่วมงาน





ดร.เทพนม  ได้นำภาพยานอวกาศที่บันทึกได้มาให้นักข่าวชม  และกล่าวถึงข้อมูลที่ได้รับการติดต่อสื่อสารจากมนุษย์ต่างดาวจากดาวอังคาร   และการเตือนในเรื่องของภัยพิบัติต่าง ๆ ให้กับสื่อมวลชนที่สนใจได้รับทราบ











และคุณโจ   ให้ความสนใจข้อมูลเรื่องของมนุษย์ต่างดาวเป็นพิเศษ  เพราะพบเห็นวัตถุลึกลับด้วยตัวเองหลายครั้ง    จึงได้มารับฟังข้อมูลจาก ดร.เทพนม เมืองแมน  และสอบถามในรายละเอียดที่ท่านได้รับการสื่อสารมา

ประชาชนที่เดินอยู่ภายในห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว  ให้ความสนใจ  มารอชมการแถลงข่าวด้วย 





ประมาณ 17.00 นาฬิกา  ถึงเวลาแถลงข่าวเปิดตัว


" สารคดี UFO IN THAILAND "

โดยมี 

ดารานักแสดง  และทีมงานสารคดี UFO IN THAILAND

ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

ดารานักแสดง  เป็นพิธีกรรับเชิญ

ผู้เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าว 
และตอบข้อซักถามนักข่าวที่สนใจสอบถามข้อมูล
















การแถลงข่าวเปิดตัว  " สารคดี UFO IN THAILAND " 
เสร็จสิ้นลงประมาณเวลา 18.00 นาฬิกา







คุณโชคชัย  เจริญสุข  ทีมงานสารคดี UFO IN THAILAND  มอบของที่ระลึกให้กับ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน









หน้าปกของสารคดีชุดนี้ 





ภายในแผ่นสารคดี  เป็นการถ่ายทำที่แดนมิตรต่างดาว  จังหวัดเพชรบุรี

และตามล่าหาความจริงเรื่องของ UFO ที่เขากะลา  จังหวัดนครสวรรค์ 
ที่มีผู้พบเห็นมากที่สุด






งานวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ  ครั้งที่ 10

วันที่ 9 - 12 ธันวาคม  2548
ณ  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  ได้รับเชิญจาก ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน 
ได้แจ้งให้ทราบว่ามีการจัดงานวิทยาศาสตร์ทางจิตฯ  ขึ้นในวันที่ 9 - 12 ธันวาคม 2548 
และเชิญกลุ่มเขากะลา  มาร่วมจัดบูธ  นิทรรศการ   UFO และมนุษย์ต่างดาว 
ภายในงานวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 10 ร่วมกัน












ดังนั้น  กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) 
จึงได้จัดคณะฯ   เพื่อเดินทางไปร่วมงาน
และจัดทีมอยู่ประจำที่บูธของ ศ.ดร.เทพนม  เมืองแมน 
เนื่องจาก  ดร.เทพนม  เมืองแมน   ท่านมีภารกิจต้องออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ทางภาคใต้ด้วย 
จึงมิได้อยู่จนเสร็จงาน   และฝากให้กลุ่มประสานงาน ฯ 
จัดเก็บบอร์ด  และนำภาพไปส่งไว้ที่บ้านของท่านด้วยเมื่อปิดงานแล้ว




ซึ่งในการเดินทางไปร่วมงานในครั้งนี้  ได้พบกับคุณ ณพงษ์  สังข์ผาด 
หรือ คุณ ukrin เป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2548
ซึ่งขณะนี้   ได้กลายเป็นอาจารย์  แพทย์แผนอนาคต 
ของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ในวันนั้น  อาจารย์ ukrin  เป็นผู้สนใจเรื่องของ ufo  และเดินทางมาร่วมงานทั้ง 4 วัน  และวันสุดท้าย 
ได้ช่วยเก็บภาพจากบูธ  และนำไปส่งที่บ้าน ดร.เทพนม  เมืองแมน 
จากนั้น  จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้รู้จักกันอย่างเป็นทางการ

งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ  ครั้งที่ 11
[/b]

วันที่ 8 - 11 ธันวาคม  2549

ณ  มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก
วิทยาเขตจักรพงษภูวนารถ
ถนนวิภาวดี  เขตดินแดง  กรุงเทพฯ


กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน  เชิญเข้าร่วมจัดบูธแสดงนิทรรศการ UFO และมนุษย์ต่างดาว  ร่วมกับท่าน

โดยท่านได้จัดเตรียมบอร์ดไว้ให้กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ส่วนหนึ่ง  เพื่อนำภาพ UFO และภาพมนุษย์ต่างดาวที่บันทึกได้ในส่วนของเขากะลา 
มาแสดงในงานด้วย

ดังนั้น  ในวันที่ 7 ธันวาคม  2549 
กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  จึงได้เดินทางมาจัดบูธร่วมกับท่าน 
ก่อนวันงาน 1 วัน  เพื่อจัดเตรียมนำภาพมาแสดงนิทรรศการ ufo ในงานนี้











ได้จัดบูธร่วมกัน  ทั้งในส่วนของ ศ.ดร.เทพนม 
และ ของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  จนเสร็จในช่วงเย็น




 
วันที่ 9 - 11 ธันวาคม  2549

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  ได้เดินทางมาร่วมงาน
มหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ ครั้งที่ 11 


โดยประจำอยู่ที่บูธ นิทรรศการ UFO และมนุษย์ต่างดาว  เพื่อให้รายละเอียดแก่ผู้สนใจสอบถามข้อมูลเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา 


มีผู้สนใจจำนวนมาก  ที่เข้ามาชมภาพ UFO และสนใจสอบถามรายละเอียดของกลุ่มประสานงานฯ  และประวัติการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา

ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ท่านได้ให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจสอบถามเรื่องของ ufo และมนุษย์ต่างดาว


กลุ่มประสานงานฯ  ก็ได้จัดทีมงานอยู่ประจำภายในบูธฯ    เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจด้วย












กลุ่มประสานงานฯ  ได้ให้ข้อมูลแก่ผู้สนใจสอบถามในรายละเอียด
ในเรื่องราวของการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลาด้วย






เรื่องเล่าจากประสบการณ์จริง ของผู้ไปชมงาน
มหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติ  ครั้งที่ 11
มนุษย์ต่างดาวมาติดต่อสื่อสารด้วย


ภายในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 11 นั้น กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้มีโอกาสรู้จักกับหลายๆท่านที่มีประสบการณ์แปลกๆ และต้องการที่รู้ว่าสิ่งทีกำลังประสบอยู่นั้นคืออะไร? และทำไม?

บุคคลท่านหนึ่ง  เป็นอาจารย์อยู่ที่จังหวัดนครสวรรค์  ได้มาขอพบ ดร.เทพนม  เมืองแมน และพี่สุดใจ  เพื่อขอทราบข้อมูล  และขอปรึกษาในเรื่องของการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว







โดยได้เล่าเรื่องราวของลูกชายของท่านให้ฟังว่า

ปกติท่านและครอบครัว ได้มีการปฏิบัติธรรมสวดมนต์ทำสมาธิกันอย่างต่อเนื่องเป็นปกติ

-แต่เมื่อประมาณ 6 เดือนที่ผ่านมา (นับย้อนไปจากวันที่พบที่งาน) ลูกชายคนเล็กของท่าน ได้รับการสื่อสารมาจาก "มนุษย์ต่างดาว" ครั้งแรกเป็นการสื่อสารข้อความลงมาและสามารถเข้าใจข้อความนั้นได้ ซึ่งในระยะแรกครอบครัวก็ยังไม่มีใครเชื่อ แต่ลูกชายได้บอกว่าเขาจะนำยานอวกาศมาให้ดู และพาครอบครัวออกไปดูนอกบ้าน คุณแม่และครอบครัวก็ได้ออกไปดูและก็เห็นวัตถุบินลอยอยู่บนหลังคาบ้านจริงๆ จากนั้นมาก็จะมีวัตถุบินมาลอยอยู่บริเวณบ้านหลังนี้บ่อยครั้ง รวมทั้งมีการสื่อข้อมูลลงมาที่ลูกชายของท่านผู้นี้อย่างต่อเนื่อง

- ข้อมูลต่างๆ ที่สื่อลงมาก็จะเกี่ยวกับการบอกเรื่องของภัยพิบัติ เรื่องของมนุษย์ต่างดาว ที่ต้องมาสื่อสารกับมนุษย์โลก เพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติในครั้งนี้

- พี่สุดใจจึงได้เชิญท่านผู้นี้ มาเล่าประสบการณ์ให้ ดร.เทพนม เมืองแมน ท่าน ได้รับฟังด้วย ซึ่งท่านก็ได้กล่าวว่ามนุษย์ต่างดาวเริ่มที่จะสื่อสารผ่านมนุษย์โลกมากขึ้น เพราะท่านเองก็ได้รับทราบจากหลายคนที่มาบอกกับท่านว่า สื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวได้

- และภายในงานนี้มีผู้ที่บันทึกภาพ UFO ได้ที่ต่างจังหวัด จึงเดินทางมาที่บูธและนำภาพมาให้ ดร.เทพนม ด้วย เป็นภาพขณะยืนถ่ายรูปภาพของตนเอง แต่มีภาพวัตถุบินลอยอยูด้านหลังชัดเจน เป็นวัตถุสีเงินค่อนข้างกลมซึ่งคาดว่าในงานวิทยาศาสตร์ทางจิตในปีนี้ ดร.เทพนม จะนำภาพนี้มาให้ชมในบูธของท่านหรือไม่คงต้องไปดูกัน

- ท่านผู้นี้ที่ลูกชายติดต่อกับมนุษย์ต่างดาว ยังกล่าวอีกว่า มีการเปิดมิติภายในบ้านของท่าน มีภาพหลากหลายรูปแบบทับซ้อนอยู่ในบ้านท่าน แล้วมีครั้งหนึ่งที่กำแพงบ้านของท่าน มีสุนัขโผล่ออกมาจากมิติครึ่งตัว ที่กำแพงบ้าน จนเด็กเห็นแล้วร้องไห้เพราะกลัว

- แล้วอีกเรื่องหนึ่งก็คือว่า ท่านเคยถามลูกชายว่าถ้าเกิดภัยพิบัติแล้วแม่จะไปอยู่ที่ไหน ซึ่งลูกชายก็กล่าวว่าก็ไปอยู่ที่เขากะลาสิแม่ (ซึ่งลูกชายของท่านกับกลุ่มเขากะลา(เดิม)ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน) ซึ่งท่านผู้นี้จึงได้มาสอบถามเรื่องมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา กับพี่สุดใจ

- ซึ่งพี่สุดใจก็ได้เล่าให้ท่านผู้นี้ได้ฟังว่ามนุษย์ต่างดาวเขามาเตรียมการไว้ที่เขากะลา โดยมีการสร้างใยแก้วครอบโดยรอบเขาออกไป 100 ตารางกิโลเมตร
เพื่อป้องกันภัยพิบัติจากภัยธรรมชาติ และรังสีจากนิวเคลียร์ ซึ่งมีการสร้างมาตั้งแต่ปี 2541 ขณะนั้นจะมีคณะบุคคลต่างๆ ที่มาจากกรุงเทพเป็นส่วนใหญ่ มาพักอยู่บนเขากะลา ตอนกลางคืนหลังเที่ยงคืนไปแล้วจะมีดวงไฟสีขาวสว่างมาก ลักษณะเป็นท่อฉายฉาบไปตามเขาโดยรอบเขากะลาเกือบทุกคืน ซึ่งผู้ที่อยู่บนเขา ก็จะออกมายืนดูกัน หลังจากนั้นไม่นานดวงไฟเหล่านั้นก็ไม่มาปรากฏอีก

-มนุษย์ต่างดาวสื่อสารผ่าน จ.ส.อ.เชิด บอกว่าสร้างเสร็จแล้ว และมนุษย์ต่างดาวบอกว่า ที่เรียกว่าใยแก้วนั้น เป็นการเปรียบเทียบเพราะมันมองไม่เห็น แต่จริงๆไม่ได้เป็นแก้วเป็นการสร้างเครื่องมือครอบไว้ และมนุษย์ต่างดาวยังบอกอีกว่าได้ทำไว้ในหลายสถานที่ไม่ใช่แต่ที่นี่เท่านั้น สถานที่หลบภัยอื่นๆเขาก็ได้สร้างใยแก้วป้องกันเช่นกัน แม้ว่าสถานที่นั้นจะไม่เคยรับรู้เรื่องของมนุษย์ต่างดาวเลยก็ตาม ก็ยังคงได้รับการสร้างเพื่อป้องกันเช่นกัน

- เมื่อพี่สุดใจเล่าจบ ท่านผู้นั้นก็กล่าวว่า เหมือนที่ลูกชายบอกไว้ว่าเขากะลามีใยแก้วและลูกชายยังบอกอีกว่า " จ่าเชิดเขาหมดหน้าที่แล้ว" ท่านจึงถามเราว่า "จ่าเชิด" เป็นใคร ซึ่งพี่ก็บอกว่าเป็นพ่อของเราและท่านเสียไปแล้ว ซึ่งมนุษย์ต่างดาวที่สื่อสารกับลูกชายท่านนั้น ได้บอกเรื่องราวของเขากะลาถูกต้องทุกอย่าง ทั้งๆที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน

ก็เป็นเรื่องราวจากประสบการณ์จริงของครอบครัวหนึ่งที่มีการพบเจอกับสิ่งเหล่านี้ และไม่รู้จะไปบอกกับใคร เพราะคนอื่นทั่วไปก็คิดว่าบ้า แต่ท่านยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง และยังเห็นจานบินมาปรากฏที่บ้านอยู่เสมอ

- คงขออนุญาตไม่กล่าวถึงชื่อของท่านและครอบครัว แต่ท่านก็ยังคงปฏิบัติธรรมอย่างต่อเนื่องจนทุกวันนี้

- เป็นเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้เห็นว่า เรื่องของมิติ เรื่องของมนุษย์ต่างดาว ไม่ได้จำกัดอยู่ในวงแคบๆอีกต่อไปแล้ว เมื่อมีคนเริ่มพบวัตถุบินมากขึ้น เริ่มติดต่อได้มากขึ้น ฟนั่นหมายถึงสถานะการณ์เรื่องภัยพิบัติย่อมรุนแรงขึ้นเช่นกัน เพราะเมื่อถึงเวลาต้องเตือน หรือต้องช่วยเหลือ ก็ต้องผ่านช่องทางที่เขาได้มาเตรียมการไว้นั่นเอง

- และนี่คือส่วนหนึ่งของสิ่งที่เรียกว่า "อุปกรณ์หรือเครื่องมือของมนุษย์ต่างดาว" สำหรับรับข้อมูลของมนุษย์ต่างดาว เป็นเทคโนโลยีในรูปแบบพลังงาน ซึ่งมนุษย์ต่างดาวได้เคยอธิบายคำว่าอุปกรณ์ไว้ว่า

- เป็นเทคโนโลยีเปรียบเทียบได้คล้ายกับทีวีของมนุษย์โลก ถ้าเปิดพร้อมกัน ช่องเดียวกัน ก็จะได้รับข้อมูลเหมือนกัน เช่นถ้ามีทีวี 100 เครื่องแล้วเปิดช่อง 9 พร้อมกันในวันจันทร์ เวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง ก็จะได้ดูรายการ V.I.P.พร้อมกัน เพราะทุกเครื่องรับคลื่นจากสถานีเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน

- ดังนั้นอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวก็เป็นเทคโนโลยี่ ที่ติดตั้งแล้วสามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องใช้เวลาในการฝึกเพื่อสื่อสารกับเขา และสามารถรับรู้เรื่องราวได้พร้อมกันในบุคคลจำนวนมาก และมีความแม่นยำถูกต้องในข้อมูลที่ถูกส่งมา ซึ่งกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ก็ได้รับการติดตั้งอุปกรณ์นี้แล้วเช่นกัน


- เรื่องราวต่างๆ ยังมีอีกมากมาย ทั้งพยานวัตถุ และพยานบุคคล ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่น้อยคนนักที่จะกล้าเปิดเผย กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) จึงขอเป็นสื่อกลางที่จะตอบคำถามให้กับทุกท่าน


- ขอบคุณค่ะ
วันที่  5 - 7 ธันวาคม  2551

งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 13

ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์  บางเขน  กรุงเทพฯ


กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) 
เดินทางเข้าร่วมฟังการบรรยาย ของ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน

เรื่องการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว












หลังจาก ดร.เทพนม  เมืองแมน  ท่านบรรยายเสร็จ  กลุ่มประสานงานเืพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  ได้ไปพบท่าน 

ท่านยินดีที่กลุ่มเขากะลาเดินทางมาร่วมฟังการบรรยายในครั้งนี้ 

ท่านยังได้ถามเรื่องราวความคืบหน้าของการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา  ว่าไปถึงไหนแล้ว

จึงได้้เรียนท่าน   ถึงเรื่องที่มนุษย์ต่างดาวได้มาจัดหาบุคคลที่จะมาทำงานร่วมกับมนุษย์ต่างดาวเพิ่มเติม  ในรุ่นที่ 2 

ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการคัดสรรบุคคลเพื่อเข้าร่วมทำงานกับมนุษย์ต่างดาว  ตามที่มนุษย์ต่างดาวได้แจ้งขั้นตอนไว้

ได้แนะนำสมาชิกใหม่  ให้รู้จัก ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  อย่างเป็นทางการ














จากนั้น   ท่านได้นำกลุ่มประสานงานฯ  มาชมบูธ นิทรรศการ UFO และมนุษย์ต่างดาว  ที่จัดอยู่ชั้นล่างของงาน 

ซึ่งก่อนหน้านี้ ท่านได้กล่าวเชิญกลุ่้มประสานงานฯ  มาร่วมจัดบูธด้วยกัน   
แต่เนื่องด้วย  ทางกลุ่มประสานงานฯ มีภารกิจในการคัดสรรบุคคลเข้าร่วมทำงานกับมนุษย์ต่างดาว  จึงต้องทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่องมานานหลายเดือนติดต่อกัน  จึงไม่สามารถมาร่วมจัดบูธได้

ซึ่งได้กล่าวขอบพระคุณอาจารย์เทพนม  ที่ท่านได้เชิญมา  และกล่าวขอโทษที่ไม่ได้มาร่วมจัีดบูธภายในงานนี้

ซึ่งท่านเข้าใจ และกล่าวเชิญในครั้งต่อไป  ให้ร่วมจัดบูธด้วยกัน

ได้มาชมบูธ  นิทรรศการ UFO และมนุษย์ต่างดาว  ของ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน
















มีผู้สนใจภายในงานหลายท่าน   ได้มาสอบถาม  ขอข้อมูลเรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลาด้วย



หลังจากนั้น  ก็เ่ป็นการสนทนาพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน  ของเพื่อน ๆ  สมาชิกทั้งเก่าและใหม่

















เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการจัดงาน
มหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่  12

ที่จะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม 2550
ได้เชิญคณะกรรมการ เข้าร่วมประชุมเืพื่อวางแนวทางในการจัดงานครั้งนี้

โดยกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมด้วย

ได้พบกับ  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน   
อาจารย์สถิตย์ธรรม  เพ็ญสุข
 
และ อาจารย์ตาที่สาม(The Third Eyes) 

ที่เดินทางเข้าร่วมประชุม  รวมถึงอีกหลาย ๆ ท่านที่ได้สนทนากัน









ดร.เทพนม  เมืองแมน  ได้นำภาพที่ท่านบันทึกได้นอกหน้าต่างเครื่องบิน 
ขณะเดินทางไปต่างประเทศมาให้ชม
 



ได้มีโอกาสรู้จัก  และร่วมสนทนากับอาจารย์ตาที่สาม (The Third Eyes) 
ซึ่งท่านมองเห็นมนุษย์ต่างดาวตามมาด้วยอยู่ด้านหลัง 

ท่านจึงบอกว่า    "มีมนุษย์ต่างดาวตามมากับคุณสุดใจด้วย"

ได้สนทนากับท่านหลายเรื่องในวันนั้น







ในช่วงระหว่างปี  2550  - 2553 
ได้มีการพบ  มีการสนทนา  และมีการนำคณะบุคคลต่าง ๆ
เข้าพบ กับ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน มาอย่างต่อเนื่อง 


วันที่  11  พฤศจิกายน  2550 
กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) โดยคุณสุดใจ  ชื่นสำนวน
ได้มีการบรรยายร่วมกับ  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  และวิทยากรท่านอื่น ๆ
ในงาน
  "รวมพลคนพลังจิตติดต่อ UFO"













นำคณะบุคคลเข้าพบ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน







รายการทีวี  " ฟังจากปาก"

ทางสถานี  MVTV 5 

โดยมี  คุณจอม  เพชรประดับ
เป็นพิธีกร

สัมภาษณ์เรื่อง "การติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่าวดาวในประเทศไทย"  เป็นเรื่องจริงหรือไม่?

ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน 
คุณสุดใจ  ชื่นสำนวน
ตัวแทนกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)

คุณจิรายุทธ  มหวานิช
คุณณภัทร  สมเย็๋น

เป็นผู้ร่วมรายการ













วันที่ 7 ธันวาคม 2552

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) โดยอาจารย์สุดใจ  และอาจารย์อลงกต 
ได้เข้าพบ ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน  เป็นการเฉพาะกิจ ที่บ้านพักของท่าน


มีการสนทนาถึงข้อมูลในเรื่องต่าง ๆ  ที่ได้รับทราบจากมนุษย์ต่างดาว  และการเตรียมการเกี่ยวกับภัยพิบัติ 
รวมถึง  การเตรียมการจัดบูธ นิทรรศการ ufo   ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตฯ ครั้งที่ 16  ที่กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 10 - 13 ธันวาคม 2552












 




ท่านให้ความสนใจในเรื่องของอุปกรณ์จากมนุษย์ต่างดาว    ที่มนุษย์ต่างดาวกลุ่มที่ติดต่อกับมนุษย์โลกที่เขากะลา  ได้มอบอุปกรณ์ให้กับสมาชิกของกลุ่ม

 เพื่อใช้ในการรักษาโรค  สแกนกรรม  และให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์โลกอยู่ในขณะนี้นั้น  มีความเป็นมาอย่างไร  และเมื่อสแกนกรรม  รักษาโรคไปแล้ว มีผลในการรักษาเป็นเช่นไร

พี่สุดใจ จึงได้เรียนให้ท่านทราบ  ถึงเรื่องของอุปกรณ์ที่มนุษย์ต่างดาวนำมาให้ทดลองใช้  เรื่องของการสแกนกรรม  เรื่องของมิติต่าง ๆ ที่เปิดให้ผู้ฝึกได้มองเห็น  รวมถึงผลของการรักษาจากอุปกรณ์นั้น  เป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง  และยังมีการทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง 





และอาจารย์หนุ่ย  ได้เรียนให้ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ได้รับทราบถึงประสิทธิภาพของอุปกรณ์จากต่างดาว  ที่อาจารย์หนุ่ยได้มีประสบการณ์ใช้อุปกรณ์เหล่านั้นแล้ว  เห็นว่าเป็นเรื่องจริง  และสามารถนำมาใช้ในการรักษามนุษย์โลกได้จริง




สนทนากับท่านเป็นเวลานานพอสมควร  เห็นควรแก่เวลา จึงกราบลาท่านเพื่อเดินทางกลับ

ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ท่านกล่าวเชิญให้กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ไปจัดบูธ นิทรรศการมนุษย์ต่างดาว และ ufo  ร่วมกับท่าน   ในงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตฯ ครั้งที่ 16  ในวันที่ 10-13 ธันวาคม 2552 นี้

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้กราบขอบพระคุณ  ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน  ที่ได้ให้ความกรุณากับกลุ่มประสานงานฯ ด้วยดีเสมอมา

จากนั้น จึงได้กราบลาท่านเพื่อเดินทางกลับ






ขออนุโมทนากับทีมงานประจำบูธ นิทรรศการ ufo 
จากกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ทุกท่านด้วยค่ะ






วันที่ 30 มกราคม  2553 

กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) เดินทางไปร่วมรับฟัง  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  บรรยายในเรื่องเกี่ยวกับเรื่อง  "การศึกษาเกี่ยวกับวิญญาณ"  ณ โรงแรมรัตนโกสินทร์  ในวันเสาร์ที่ 30 มกราคม 2552

ซึ่งหลังจากบรรยายเสร็จแล้ว  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ได้นัดหมายสนทนากับกลุ่มประสานงานฯ  เพื่อรับทราบความคืบหน้าของการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว  ที่ทางกลุ่มได้ติดต่อสื่อสารอยู่ในขณะนี้

ในช่วงบ่าย  มีกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) หลายท่าน เป็นตัวแทนเข้ารับฟัง  คืออาจารย์ไก่ อาจารย์เม้าท์ อาจารย์จักษวัชร์ อาจารย์หนุ่ย อาจารย์แตง   และสมาชิกน้องใหม่อีก 3 ท่าน น้องสันโดษ น้องไล้ลี่ และน้องนีโอ ได้เข้าร่วมกลุ่ม  เดินทางไปรับฟังการบรรยายของ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมนในครั้งนี้ด้วย




























จนเวลาประมาณ 16.30 นาฬิกา  พี่สุดใจซึ่งติดธุระในช่วงกลางวัน   ก็ได้เดินทางมาสมทบกับคณะฯ ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ในช่วงเย็น   ซึ่งเป็นเวลาที่  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ท่านเพิ่งเสร็จจากการบรรยายในห้องประชุม  และออกมานั่งสนทนากับคณะฯ กลุ่มประสานงานฯ  ที่ห้องรับแขกของโรงแรมรัตนโกสินทร์

จึงได้กราบสวัสดีอาจารย์เทพนม  และทักทายเพื่อน ๆ สมาชิก  พร้อมน้องใหม่ทั้ง 3 ท่าน
อาจารย์เทพนม  ท่านได้เชิญนั่ง  และร่วมสนทนากัน














จากนั้น  ได้สนทนากับ อาจารย์เทพนม  เมืองแมน  อยู่จนถึงประมาณ 18.00 นาฬิกา   และได้บันทึกภาพร่วมกันก่อนที่จะเดินทางกลับ







สมาชิกน้องใหม่  ที่เพิ่งพบกันครั้งแรก  จากซ้าย     น้องนีโอ  น้องสันโดษ  และน้องไล้ลี่   




กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  ได้เดินทางออกมาส่งอาจารย์เทพนม  เมืองแมน  ขึ้นรถส่วนตัวที่หน้าโรงแรมรัตนโกสินทร์  เพื่อเดินทางกลับบ้านพักของท่าน

 

วันที่ 29 ตุลาคม 2553

ได้มีโอกาสสนทนาทางโทรศัพท์กับ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน  เกี่ยวกับความคืบหน้าของข้อมูล และการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาว   และได้เรียนให้ท่านทราบถึงความคืบหน้าของภารกิจที่เตรียมการเพื่อช่วยเหลือภัยพิบัติร่วมกับมนุษย์ต่างดาว   การมาปรากฏของจานบินให้สมาชิกของกลุ่มได้เห็นเพิ่มมากขึ้น  การรับบุคลากรเข้าร่วมทีมงานที่เพิ่มขึ้น  และการทดสอบใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีจากต่างดาว  ที่ทางกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ 
ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ได้กล่าวเชิญ...กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ให้เข้าร่วมจัดนิทรรศการภาพมนุษย์ต่างดาวและ ufo ร่วมกับท่าน  ดังเช่นปี 2552  ที่ผ่านมา   

ซึ่งขณะนี้  ท่านได้จองบูธเพื่อจัดนิทรรศการไว้เรียบร้อยแล้ว
ภาพ...การจัดบูธนิทรรศการภาพมนุษย์ต่างดาวและ ufo
ร่วมกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน เมื่อปี 2552
http://ufokaokala.com/index.php?topic=309.msg6110#msg6110





กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  ขอกราบขอบพระคุณ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  เป็นอย่างสูง ที่ได้ให้ความกรุณา  และให้ความไว้วางใจตลอดมา  ตั้งแต่เมื่อครั้งยังเป็นกลุ่มเขากะลา  มาจนถึงปัจจุบันนี้มากกว่า 10 ปีแล้ว 
หากเพื่อนสมาชิกท่านใดต้องการพบ  และสนใจรับฟังข้อมูลจาก 
ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน เรียนเชิญไปฟังการบรรยายของท่านได้
ณ  งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิต ปีที่ 15 ครั้งที่ 18
ซึ่งจะจัดขึ้น  ณ ห้างพันธุ์ทิพย์ งามวงวานศ์ชั้น 8 
ระหว่างวันที่ 9-10-11-12 ธันวาคม พ.ศ.2553


(รายละเอียดกำหนดการบรรยายจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งหนึ่งค่ะ)

และเชิญพบปะสนทนากับสมาชิก....กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) ได้ ณ บูธนิทรรศการมนุษย์ต่างดาวและ ufo ภายในงานนี้ค่ะ

งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิต ปีที่ 15 ครั้งที่ 18
9-12 ธันวาคม 2553 ณ พันธ์ทิพย์พลาซ่า งามวงศ์วาน

สมาชิกกลุ่มประสานงานฯ โดยทีมงานหลักเข้าจัดแต่งบูธ งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตร่วมกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน วันที่ 8-12-53


จากชั้น1 ห้้่างพันธ์ทิพย์งามวงศ์วาน ลิฟต์เบอร์ 10 หรือ 6 ขึ้นมาชั้น8 ก็จะพบกับบูธของกลุ่มฯ






สมาชิกเริ่มทยอยกันมายังห้างพันธ์ทิพย์ตั้งแต่บ่ายโมง






น้องแอน(annean) กับกล่องใส่เงินฝีมือตัวเอง

ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน มาถึงบูธประมาณบ่ายสามโมง ก็เริ่มจัดแต่งบูธทันที


























น้องไล้(likely) กับมนุษย์ต่างดาวฝีมือตัวเอง




ทีมงานblog17
 
อ.พีท ทองเจือ ส่งทีมงานblog17 มาช่วยจัดแต่งบูธ
(อ้อมกับแมน) ช่้วยกันขึ้นรูปมนุษย์ต่างดาว













ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน มาถึงบูธประมาณ10โมงเช้าเพื่อเป็นประธานในพิธีเปิดงานแทน ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรีซึ่งติดภารกิจด่วนไปญี่ปุ่น











บรรยากาศภายในบูธหลังจากพิธีเปิด ผู้คนเริ่มทยอยกันเข้ามาเยี่ยมชมบูธ





















นักข่าวมาขอสัมภาษณ์ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมนที่บูธ








บรรยากาศภายในบูธ


















ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน นำเครื่องตรวจคลื่นความถี่ของมนุษย์ต่างดาว รุ่นเดียวกับที่นาซ่าใช้ มูลค่าเครื่องละกว่าแสนบาทมาทดลองสแกนให้กับผู้ที่สนใจ
ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน ขึ้นบรรยายเรื่องเตือนภัยต่างดาว พร้อมรับวิกฤตโลก ที่เวทีบรรยาย1  เวลา 14.00 น.- 16.00 น. มีผู้สนใจเข้าร่วมฟังกันจนล้นห้อง










































ภาพบรรยากาศงานวิทยาศาสตร์ทางจิต วันที่ ๑๑ ธันวาคม ๒๕๕๓













ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน ขึ้นเวที บรรนยาย เวลา ๑๔.๐๐น.
เสร็จบรรยาย ผู้คนที่นั่งฟัง ก็แห่มาที่บูธ จนเต็มไปหมด ไม่มีทางเดิน


















บรรยากาศที่บูธหลังจาก ดร.เทพนม บรรยายจบ






















คุณคณานันท์(kananun) หัวหน้ากลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ แวะมาเยี่ยมเยียนที่บูธ













ภาพบรรยากาศ การรอรับชมจานบินที่มาตามนัดหมาย






ภาพจานบิน ถ่ายโดย อ.ตั้น




มีผู้ถ่ายภาพจานบินได้หลายท่าน









คุณอลงกรณ์ โชว์ภาพที่ถ่ายติดจานบิน














อาจารย์ newtonnewton โชว์ภาพที่ถ่ายติดจานบิน







ในวันที่ 12 ธันวาคม 2553  ผู้บันทึกภาพ ufo ที่เพชรบูรณ์  ก็ได้เดินทางมารอชมufo  พร้อมกับ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน   และรอบันทึกภาพ ufo ที่งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิตที่จัดขึ้นในครั้งนี้ด้วย










....




ถือเป็นไฮไลท์ของงานในตอนเย็น เมื่อ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา เดินทางมาเพื่อเป็นประธานปิดงานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิต



ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ให้เกียรติถ่ายรูปร่วมกับสมาชิกกลุ่มฯ เขากะลา




























อ.สุดใจ เป็นตัวแทนกลุ่มฯ มอบแผ่นดีวีดีเขากะลา2 และของที่ระลึกให้แก่ ดร.อาจอง































ศ.ดร.นพ.เทพพนม เมืองแมน และ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ได้ให้เกียรติแวะมาที่บูธ และร่วมถ่ายภาพกับคณะทำงาน

ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา บรรยายเรื่องศาสนากับวิทยาศาสตร์




























ชมภาพภายในงานวิทยาศาสตร์ทางจิต ครั้งที่ 18 ทั้งหมดได้ที่

งานมหกรรมวิทยาศาสตร์ทางจิต ครั้งที่ 18 (9-12)ธันวาคม 2553 ณ พันธ์ทิพย์พลาซ่า งาม


......................... 
สมาชิกกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)  
เข้าพบ ศ.ดร.เทพนม  เมืองแมน
ณ บ้านพัก 14-01-11


ถึงบ้านพัก ศ.ดร.เทพนม เมืองแมนในเวลา 17.00 น.


















ศ.ดร.เทพนม  เมืองแมน กำลังเล่าถึงข้อมูลที่มนุษย์ต่างดาวแจ้งมายังท่าน








เบรครับประทานอาหารว่างและกาแฟ หลังจากสนทนากันร่วมสองชม.










hammurabi99 กำลังเล่าถึงประสบการณ์ที่ได้พบเห็นจานบินบนเขากะลาเมื่อช่วงปีใหม่ให้ ดร.เทพนมฟัง


















ดร.เทพนม นำภาพที่ถ่ายติดจานบินล่าสุดที่กาญจนบุรี กับที่กรุงเทพฯ มาให้ดู







ท่านดร.เทพนม เล่าว่ามนุษย์ต่างดาวบอกท่านว่าในจักรวาลมีดวงดาวอยู่เยอะมาก เลยเปิดมิติให้ท่านถ่ายรูปซึ่งท่านถ่ายติดดวงดาวเยอะมาก โดยท่านถ่ายที่ชั้นบนบ้าน
























กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)   ได้รับการติดต่อจากหนังสือพิมพ์ชื่อ THE WALL STREET  JOURNAL จากประเทศสหรัฐอเมริกา  ซึ่งกำลังให้ความสนใจในเรื่องของ  ufo ในภูมิภาคเอเซีย และในประเทศไทย   และพบเว็บไซด์  www.ufokaokala.com  จึงได้ให้ความสนใจ  และติดต่อขอสัมภาษณ์เรื่องราวของ ufo ที่เขากะลา  ซึ่งทางกลุ่มประสานงานฯ  ก็ตอบตกลงยินดีให้ข้อมูลที่สนใจ





ดังนั้น   ทางหนังสือพิมพ์ จึงได้นัดขอสัมภาษณ์  ศ.ดร.นพ.เทพนม เมืองแมน   และกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) คืออาจารย์สุดใจ  และอาจารย์พีท  ทองเจือ  ในวันที่ 26 มกราคม 2554  ที่บ้าน ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ในเวลา 13.00  นาฬิกา

เนื่องจากอาจารย์พีท  ติดงานละคร  ไม่สามารถเดินทางมาได้  ดังนั้น  พี่สุดใจ  จึงได้ประสานงานกับอาจารย์ ukrin ให้เดินทางมาเพื่อร่วมให้ข้อมูล  พร้อมทั้งเป็นช่างภาพบันทึกภาพในครั้งนี้

เวลา  13.00  นาฬิกา  ได้พบกับ  Mr.James Hookway  และคุณ  วิลาวัลย์   จากหนังสือพิมพ์  THE WALL STREET  JOURNAL  และเดินทางไปบ้าน ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน







...

พี่สุดใจ  ได้พาคุณเจมส์  และคุณวิลาวัลย์   เข้าพบ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน   ซึ่งท่านให้การต้อนรับอย่างดียิ่ง






 และทางคุณเจมส์  ได้ขอสัมภาษณ์ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ถึงเรื่องราวของ ufo  ที่มาปรากฏให้เห็นนั้น  มีการติดต่อสื่อสารกันอย่างไร  และมาเพื่อสาเหตุใด 

ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  กำลังให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์  THE WALL STREET  JOURNAL 














ซึ่งพี่สุดใจ  เป็นตัวแทนให้ข้อมูลเรื่องของการติดต่อสื่อสารกับมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา  ตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงปัจจุบันนี้

คุณวิลาวัลย์  ได้เป็นล่ามแปลข้อมูล   เป็นภาษาอังกฤษให้กับคุณเจมส์ได้รับฟัง   ซึ่งท่านได้ให้ความสนใจเรื่องราวของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลาเป็นอย่างมาก
















ในระหว่างการสัมภาษณ์เรื่องของมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลา  ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน  ท่านได้บันทึกภาพ  ufo ที่เขากะลาไว้ได้ด้วย  เมื่อครั้งที่ท่านได้ไปเยือนเขากะลา  และนำมาให้คุณเจมส์ได้รับชมด้วย




คุณวิลาวัลย์  กำลังแปลข้อมูลจากพี่สุดใจ  ให้คุณเจมส์ได้รับฟัง  และท่านได้ให้ความสนใจภาพจานบิน และภาพมนุษย์ต่างดาวเรืองแสง  ที่บันทึกได้ที่เขากะลาอย่างยิ่ง














พี่สุดใจ  นำภาพจานบินที่กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา) บันทึกไว้ได้  ที่งานวิทยาศาสตร์ทางจิตนานาชาติครั้งที่ 18  ที่พันธุ์ทิพย์งามวงศ์วานที่มาปรากฏให้ชม   ให้ ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมนได้ดู  และมอบให้ท่านไว้ด้วย






มิสเตอร์เจมส์  และคุณวิลาวัลย์   ได้บันทึกภาพไว้เพื่อนำไปประกอบข้อมูลต่อไป









อาจารย์ ukrin  ให้ข้อมูลเรื่องมนุษย์ต่างดาวที่เขากะลาเพิ่มเติม  ถึงการพบเจอกลุ่มเขากะลา  และจานบินที่เห็นจำนวนมากที่เขากะลา










จนประมาณ 16.30 นาฬิกา  การสัมภาษณ์เสร็จสิ้นลง  จึงได้บันทึกภาพร่วมกันก่อนเดินทางกลับจากบ้าน ศ.ดร.นพ.เทพนม  เมืองแมน








.............

....

ติดตามข้อมูลได้ที่















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น